รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรลงพื้นที่รับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสัญจรไปมาเข้าออกหมู่บ้านเนื่องจากผิวถนนชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดสายระยะทางกว่า 2.7 กิโลเมตร พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาและหาทางออกร่วมกัน
นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นายสิทธิพงษ์ กระทอง ผอ.โครงการชลประทานยโสธร และนางละเอียด ศรีสุข นายกเทศมนตรีตำบลห้องแซง อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ได้ลงพื้นที่ติดตามดูสภาพถนนเส้นทางที่เข้าออกหมู่บ้านหนองบึง หมู่ที่ 4 ตำบลห้องแซง อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร พร้อมทั้งรับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของชาวบ้าน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีชาวบ้านร้องเรียนผ่านสื่อโซเชี่ยลว่าได้รับความเดือดร้อนในการสัญจรไปมาผ่านเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากถนนเส้นดังกล่าวเป็นทางเข้าออกหมู่บ้านก่อนที่จะผ่านเข้าไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยลิงโจนจึงมักจะมีประชาชนใช้เส้นทางสัญจรไปมาเป็นจำนวนมากแต่สภาพปัจจุบันผิวถนนจากเดิมที่เป็นถนนลาดยางเกิดชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดสายจนมีน้ำท่วมขังผิวจราจรหลายจุดไม่เหลือสภาพถนนลาดยางให้เห็นอีกแล้ว ชาวบ้านเคยแจ้งไปยังหลายหน่วยงานเพื่อเข้าดำเนินการแก้ไขแต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปดำเนินการแก้ไขให้กับชาวบ้านจนชาวบ้านต้องทนทุกทรมานกับการสัญจรไปมาผ่านถนนเส้นนี้มานานกว่า 20 ปี แล้ว
โดยจากการตรวจสอบทราบว่าถนนเส้นดังกล่าวอยู่ในความดูแลของโครงการชลประทานยโสธร ซึ่งได้มีการก่อสร้างทำเป็นถนนลาดยางเพื่อเชื่อมจากถนนสายหลักเข้าสู่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยลิงโจน ระยะทางประมาณ 2,700 เมตร ดำเนินการก่อสร้างมานานกว่า 20 ปี แล้ว หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีการซ่อมแซมแต่อย่างใดจนทำให้ผิวถนนชำรุดตลอดสายเป็นหลุมเป็นบ่อและมีโคลนตมพอเข้าสู่หน้าฝนก็จะมีน้ำขังแต่พอเข้าสู่หน้าแล้งก็จะมีฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณจนชาวบ้านที่ใช้เส้นทางเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ขณะที่ นายสิทธิพงษ์ กระทอง ผอ.โครงการชลประทานยโสธร ชี้แจงว่าตนรับทราบถึงปัญหาของถนนเส้นดังกล่าวแล้วแต่ทางกรมชลประทานไม่มีงบประมาณจัดสรรมาให้ในการซ่อมแซม ซึ่งตนก็พยายามของบประมาณเข้าไปทุกปีแต่ก็ไม่ได้รับการจัดสรรจึงไม่มีงบประมาณที่จะดำเนินการซ่อมแซมได้
ด้าน นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้ลงพื้นที่รับทราบปัญหาของชาวบ้านในครั้งนี้และได้หารือร่วมกันกับ ผอ.โครงการชลประทานยโสธรและนายกเทศมนตรีตำบลห้องแซง แล้วเพื่อหาทางออกร่วมกันและเป็นการแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านได้ข้อสรุปว่า เบื้องต้นให้ทางชลประทานยโสธรเสนอของบประมาณเข้าไปจากส่วนกลางเพื่อจัดสรรงบประมาณเข้าดำเนินการซ่อมแซมถนนเส้นดังกล่าวตามระเบียบกฎหมายและในเบื้องต้นนี้ได้ให้ทางเทศบาลตำบลห้องแซง ขออนุญาตใช้พื้นจากกรมชลประทานเพื่อดำเนินการซ่อมแซมผิวถนนที่ชำรุดอย่างเร่งด่วนให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์ นี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านได้สัญจรไปมาได้สะดวกและปลอดภัยต่อไป