ข่าวอัพเดทรายวัน

ตำรวจขอนแก่น รวบสาวใหญ่ ตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ค้าปืนเถื่อน บนโลกออนไลน์ได้พร้อมของกลางนับพันรายการ

ตำรวจขอนแก่น รวบสาวใหญ่ ตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ค้าปืนเถื่อน บนโลกออนไลน์ได้พร้อมของกลางนับพันรายการ ทำมาเกือบ 2 ปี รายได้รวมกว่า 2 ล้านบาท

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 19 ต.ค.2565 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.ท.วิโรจน์ นาหนองขาม รอง ผกก.(สส.) สภ.เมืองขอนแก่น แถลงข่าวผลการจับกุม น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี (เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล) ชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางอาวุธปืนอัดลมยาว ขนาด 8 มม.จำนวน 2 กระบอก,ลำกล้องปืนอัดลม,เครื่องบังคับเสียงปือหรือท่อเก็บเสียง รวมทั้งกระสุนปืนลูกเหล็กรวมหลายรายการ นอกจากนี้ยังคงตรวจพบสมุดบัญชีลูกค้าและเอกสารการโอนเงินในการซื้อขายอาวุธปืนอีกว่า 1,000 รายการ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นและ กก.สส.ภ.วจว.ขอนแก่น จับกุมตัวได้ภายในบ้านพักในเขต อ.บ้านไผ่

พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นอดีตพนักงานร้านคอมพิวเตอร์ จึงมีความเชี่ยวชาญและติดต่อประสานงานในการซื้อขายแบบออนไลน์เป็นอย่างดี จึงมีการทดลองซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวกับอาวุธปืนผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์ และมีลูกค้ามาทำการซื้อและขายกระจายอยู่ทั่วประเทศ และด้วยนโยบายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและ บช.ภ.4 ได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ทำการสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน ชุดสืบสวนจึงทำการตรวจสอบข้อมูลและมีการทดสอบสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว ด้วยการขอซื้อลำกล้องปืน ซึ่งผู้ต้องหามีการส่งจำหน่ายให้กับทางเจ้าหน้าที่จริง จึงมีการแต่งตั้งคณะทำงานและทำการสืบสวนสอบสวนข้อมูลเชิงลึก

“ เจ้าหน้าที่สืบทราบแน่ชัดว่าผู้ต้องหาใช้พื้นที่ อ.บ้านไผ่เป็นจุดรวมสินค้าก่อนที่จะกระจายสินค้าขายไปในจังหวัดต่างๆ จึงขออนุมัติหมายค้นจาก ศาล จ.พล เข้าทำการตรวจค้นพบของกลางที่เกี่ยวกับอาวุธปืนรวมหลายรายการคิดเป็นมูลค่านับล้านบาท และจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ทำการเรียนรู้วิชาอาวุธปืนผ่านออนไลน์ ก่อนที่จะทำการสั่งซื้อส่วนประกอบต่างๆทั้งลำกล้อง ท่อเก็บเสียง ลูกปืน แม้กระทั่งไกรปืนและอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับปืนจากแพลตฟอร์มออนไลน์และคู่ค้า ทั้งจาก จ.อุดรธานี ,ระยอง กรุงเทพฯและเขตปริมณฑล และสินค้าทั้งหมดให้ส่งมาที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อประกอบเป็นกระบอกหรือส่งจำหน่ายตามการสั่งซื้อของลูกค้า”

พล.ต.ต.นพเก้า กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหาได้ทำธุรกิจอาวุธปืนมานานกว่า 2 ปี มีลูกค้ากระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศนับพันคน และมีวงเงินหมุนเวียนในการซื้อขายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทโดยเฉพาะปืนอัดลมยาว ขนาด 8 มม.ที่จำหน่ายกระบอกละ 6,000 บาทและหากติดลำกล้องเก็บเสียงจะอยู่ที่กระบอกละ 8,000 บาท ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่เลือกซื้อปืนกับผู้ต้องหารายนี้นั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ชื่นชอบปืนและเป็นลูกค้าขาประจำ เนื่องจากผู้ต้องหามีการจำหน่ายทั้งในรูปแบบกระบอก และชิ้นส่วนปืนต่างๆอีกด้วย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้ที่ร่วมขบวนการดังกล่าวอีกครั้ง ในขณะที่ผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงตั้งข้อกล่าวหาว่า มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,มีหรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน,ครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 19 ต.ค.2565 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.ท.วิโรจน์ นาหนองขาม รอง ผกก.(สส.) สภ.เมืองขอนแก่น แถลงข่าวผลการจับกุม น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี (เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล) ชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางอาวุธปืนอัดลมยาว ขนาด 8 มม.จำนวน 2 กระบอก,ลำกล้องปืนอัดลม,เครื่องบังคับเสียงปือหรือท่อเก็บเสียง รวมทั้งกระสุนปืนลูกเหล็กรวมหลายรายการ นอกจากนี้ยังคงตรวจพบสมุดบัญชีลูกค้าและเอกสารการโอนเงินในการซื้อขายอาวุธปืนอีกว่า 1,000 รายการ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นและ กก.สส.ภ.วจว.ขอนแก่น จับกุมตัวได้ภายในบ้านพักในเขต อ.บ้านไผ่

พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นอดีตพนักงานร้านคอมพิวเตอร์ จึงมีความเชี่ยวชาญและติดต่อประสานงานในการซื้อขายแบบออนไลน์เป็นอย่างดี จึงมีการทดลองซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวกับอาวุธปืนผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์ และมีลูกค้ามาทำการซื้อและขายกระจายอยู่ทั่วประเทศ และด้วยนโยบายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและ บช.ภ.4 ได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ทำการสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน ชุดสืบสวนจึงทำการตรวจสอบข้อมูลและมีการทดสอบสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว ด้วยการขอซื้อลำกล้องปืน ซึ่งผู้ต้องหามีการส่งจำหน่ายให้กับทางเจ้าหน้าที่จริง จึงมีการแต่งตั้งคณะทำงานและทำการสืบสวนสอบสวนข้อมูลเชิงลึก

“ เจ้าหน้าที่สืบทราบแน่ชัดว่าผู้ต้องหาใช้พื้นที่ อ.บ้านไผ่เป็นจุดรวมสินค้าก่อนที่จะกระจายสินค้าขายไปในจังหวัดต่างๆ จึงขออนุมัติหมายค้นจาก ศาล จ.พล เข้าทำการตรวจค้นพบของกลางที่เกี่ยวกับอาวุธปืนรวมหลายรายการคิดเป็นมูลค่านับล้านบาท และจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ทำการเรียนรู้วิชาอาวุธปืนผ่านออนไลน์ ก่อนที่จะทำการสั่งซื้อส่วนประกอบต่างๆทั้งลำกล้อง ท่อเก็บเสียง ลูกปืน แม้กระทั่งไกรปืนและอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับปืนจากแพลตฟอร์มออนไลน์และคู่ค้า ทั้งจาก จ.อุดรธานี ,ระยอง กรุงเทพฯและเขตปริมณฑล และสินค้าทั้งหมดให้ส่งมาที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อประกอบเป็นกระบอกหรือส่งจำหน่ายตามการสั่งซื้อของลูกค้า”

พล.ต.ต.นพเก้า กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหาได้ทำธุรกิจอาวุธปืนมานานกว่า 2 ปี มีลูกค้ากระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศนับพันคน และมีวงเงินหมุนเวียนในการซื้อขายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทโดยเฉพาะปืนอัดลมยาว ขนาด 8 มม.ที่จำหน่ายกระบอกละ 6,000 บาทและหากติดลำกล้องเก็บเสียงจะอยู่ที่กระบอกละ 8,000 บาท ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่เลือกซื้อปืนกับผู้ต้องหารายนี้นั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ชื่นชอบปืนและเป็นลูกค้าขาประจำ เนื่องจากผู้ต้องหามีการจำหน่ายทั้งในรูปแบบกระบอก และชิ้นส่วนปืนต่างๆอีกด้วย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้ที่ร่วมขบวนการดังกล่าวอีกครั้ง ในขณะที่ผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงตั้งข้อกล่าวหาว่า มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,มีหรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน,ครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป