ข่าวอัพเดทรายวัน

กาฬสินธุ์เหลืออีก 5 เมตรสุดท้ายอุดรอยแตกพนังชีคาดเสร็จวันนี้

คืบหน้าซ่อมพังลำชีแตกเหลืออีก 5 เมตรสุดท้าย คาดเสร็จภายในวันนี้ แต่ยังเจอกระแสน้ำแรง พร้อมเร่งหาจุดระบายน้ำหลังเอ่อท่วมนาข้าวขยายวงกว้าง ขณะที่ถนนสายกาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ดยังปิดการจราจรหลังมวลน้ำยังท่วมสูง

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบจากพนังกั้นแม้น้ำชีขาดกว่า 50 เมตรในพื้นที่ ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ยังขยายวงกว้าง เนื่องจากมวลน้ำยังเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนนหนทาง และพื้นที่การเกษตรนาข้าวต่อเนื่อง ทั้งนี้แม้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะระดมเครื่องจักรและกำลังคนเร่งพยายามทำการซ่อมตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกลางวัน กลางคืนมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถอุดรอยแตกของพนังได้สำเร็จ เนื่องจากรอยขาดยาว และกระแสน้ำแรง แต่ก็มีความคืบหน้าไปมากเช่นกัน

โดยล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการซ่อมแซมพนังได้แล้ว 45 เมตร จากที่ขาดกว่า 50 เมตร เหลืออีกเพียง 5 เมตรสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งการซ่อมช่วงสุดท้ายนี้ยิ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากได้มีการถมหินบีบพื้นที่เข้ามาแล้ว ทำให้ช่องขาดแคบลงเรื่อยๆ เหมือนคอขวด ยิ่งทำให้กระแสน้ำไหลแรงขึ้นเท่าตัว ซึ่งต้องดำเนินการซ่อมด้วยความระมัดระวัง แข่งกับเวลา และต้องไปเป็นตามหลักวิศวกรรม รวมทั้งความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานด้วย แต่คาดว่าจะสามารถซ่อมและปิดรอยแตกได้สำเร็จภายในวันนี้

ด้านนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องยังคงลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และสำรวจเส้นทางระบายน้ำเพิ่มเติม หลังจากมวลน้ำลำน้ำชี ได้ไหลเข้าท่วมฝั่งบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่อำเภอฆ้องชัย ก่อนจะขยายวงกว้าง เข้าสู่อำเภอกมลาไสย และไหลเข้าท่วมถนนเส้นทางกาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ด ซึ่งล่าสุดการจราจรยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เนื่องจากน้ำยังท่วมสูง แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ต้องปิดเส้นทางตั้งแต่บริเวณบ้านหัวแฮด และบ้านหนองบัว ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสยไปจนถึง 4 แยกไฟแดงสะพานข้ามแม่น้ำชี ต.เจ้าท่า ทางไป อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด พร้อมให้ใช้เส้นทางลี่ยงจาก 4 แยกไฟแดงบ้านบ่อ อ.กมลาไสย เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ มุ่งหน้าเข้า จ.ร้อยเอ็ดต่อไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

อย่างไรก็ตามมวลน้ำจากลำน้ำชีได้ไหลรวมเข้ากับน้ำค้างทุ่งในพื้นที่ อำเภอกมลาไสย ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำลงสู่น้ำชี โดยได้วางแนวทางการระบายน้ำออก ลงสู่ลำน้ำชี จะดำเนินการสูบน้ำด้วยเครื่องสูบน้ำ ซึ่งได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมจาก สำนักชลประทานที่ 6 ขอนแก่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ โครงการบำรุงและรักษาลำปาว ชลประทน และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 6 ขอนแก่น นอกจากนี้ ยังสำรวจจุดระบายน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งการระบายน้ำ โดยกำหนดจุดที่ กิโลเมตรที่ 31 บ้านแจ้งจม ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย เพื่อระบายน้ำของอำเภอกมลาไสยลงสู่ลำน้ำชีโดยเร็วที่สุด

สำหรับความเสียหายที่เกิดจากพนังกั้นแม่น้ำชีขาดล่าสุด มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่รวม 2 อำเภอ 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน 1,114 ครัวเรือน 3,451 คน แยกเป็น อ.ฆ้องชัย จำนวน 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน 860 หลังคาเรือน 2,596 คน และ อ.กมลาไสย จำนวน 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน 284 หลังคาเรือน 855 คน มีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหายรวมทั้งสิ้น ประมาณ 72,654 ไร่ พื้นที่การประมง 282 ไร่ ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสำรวจเพิ่มเติมอีก