รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตั้งสะพานแบริ่งบริเวณพนังกั้นน้ำชีบ้านโนนเมือง อำเภอกมลาไสย ที่ถูกมวลน้ำกัดเซาะขาด โดยขณะนี้สามารถใช้งานได้แล้ว พร้อมติดตามการกู้ถนนเส้นทางกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยล่าสุดนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผวจ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทน ผวจ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับ ผอ.สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 16 กาฬสินธุ์ ผอ.โครงการชลประทานกาฬสินธุ์ และท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน พร้อมติดตามการติดตั้งสะพานแบริ่ง บริเวณพนังกั้นน้ำชี กม.54 บ้านโนนเมือง ม.8 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย ที่ถูกมวลน้ำกัดเซาะขาด ซึ่งเริ่มติดตั้งในวันที่ 27 ต.ค.65 เป็นต้นมา โดยขณะนี้ได้ติดตั้งและสามารถใช้งานได้แล้ว พร้อมแจ้งให้ฝ่ายปกครองในพื้นที่จัดเวรยามเฝ้าระวังอันตรายบริเวณดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการเร่งกู้ถนนเส้นทางกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ช่วงตั้งแต่บ้านหัวแฮดไปถึงบ้านหนองบัว ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย ซึ่งมีน้ำท่วมขังสูง 80 ซม.แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ปภ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่กองร้อย อส. ผู้ต้องขังชั้นดี ทหาร ฝ่ายปกครองอำเภอกมลไย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเร่งนำกระสอบทรายเข้าปิดกั้นมวลน้ำจากพนังชีขาด เพื่อเตรียมสูบน้ำท่วมขังออกจากถนน เพื่อให้สามารถใช้การได้ คาดว่าจะเปิดให้ใช้งานได้เร็วๆนี้ โดยได้คำนึงถึงระบบเศรษฐกิจของจังหวัด และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ในส่วนพนังกั้นแม่น้ำชีที่ บ้านสะดำสี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย สาเหตุหลักของน้ำท่วม ปัจจุบันเปิดใช้งานให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านมาไปมาได้ปกติแล้ว
อย่างไรก็ตามสำหรับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมพนังชีขาดล่าสุดได้รับผลกระทบจำนวน 2 อำเภอ คือ อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย จำนวน 7 ตำบล 41 หมู่บ้าน 2,147 หลังคาเรือน 7,089 คน วัด 12 แห่ง โรงเรียน 4 แห่ง คลี่คลายแล้ว 1 แห่ง และ รพ.สต. 2 แห่ง ถนนจำนวน 10 สาย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหายจ้านวน 26,158.50 ไร่ และด้านประมง 185.25 ไร่