ทายาทสมาชิกกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ผู้สูงอายุตำบลบ้านยาง จ.บุรีรัมย์ บุกร้องนายก อบต.ถูกเบี้ยวเงินค่าจัดการศพ 33 รายนาน 7 เดือนไม่ได้สักบาท เดือดร้อนต้องกู้เงินนอกระบบสำรองจ่ายค่าทำศพแต่ไม่มีเงินไปจ่ายดอกและใช้หนี้ ทายาทสุดทนฉะเดือดประธานกลุ่มไร้ประสิทธิภาพจี้ไม่จ่ายพร้อมนำหลักฐานแจ้งความ ด้านประธานฯ ยันบริหารโปร่งใสแจงเหตุที่ค้างเพราะสมาชิกหลายคนไม่จ่ายค่าศพล่วงหน้าตามกำหนด
(31 ต.ค.65) ทายาทสมาชิกกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ผู้สูงอายุตำบลบ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ บุกร้องนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านยาง ให้ตรวจสอบช่วยเหลือหลังกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ผู้สูงอายุเบี้ยวเงินค่าจัดการศพสมาชิกที่เสียชีวิตรวม 33 ราย เฉลี่ยศพละกว่า 40,000 บาท ซึ่งบางรายเสียชีวิตไปแล้ว 7 เดือนแต่ยังไม่ได้เงินสักบาท ทำให้ทายาทเดือดร้อนต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบ มาสำรองเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพก่อน โดยหวังจะได้เงินจากทางกลุ่มฌาปนกิจไปชำระดอกเบี้ยและใช้หนี้ที่กู้ยืมมา แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้เงินสักบาท ขณะที่ทางประธานและคณะกรรมการฯ ก็ไม่เคยชี้แจงเหตุผลให้ทายาทของสมาชิกที่เสียชีวิตได้รับทราบเลยว่าเพราะอะไรถึงค้างจ่ายเงินค่าทำศพ จึงได้รวมตัวกันมาร้องนายก อบต.ให้ช่วยเหลือ
ซึ่งขณะที่ประธานกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ผู้สูงอายุตำบลบ้านยางมาชี้แจงที่ อบต. ก็มีตัวแทนทายาทของสมาชิกคนหนึ่งต่อว่าประธานฯ ด้วยอารมณ์ที่ดุเดือดต่อหน้านายก อบต.ว่า ประธานซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นอดีตนายกฯ อบต. ชาวบ้านททั้งตำบลเขาเคารพนับถือ และเชื่อมั่น แต่เมื่อเกิดปัญหาทำไมไม่เร่งแก้ไข มันเกิดความผิดพลาดตรงไหนของคณะกรรมการบริหารชุดนี้ ทำไมสมาชิกที่เสียชีวิต 33 คนถึงยังไม่ได้เงิน เป็นการบริหารงานที่ล้มเหลวทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน
สอบถาม น.ส.กลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ผู้สูงอายุตำบลบ้านยาง แต่ละรายต้องจ่ายค่าสมัครแรกเข้า 20 บาท ค่าศพล่วงหน้า 4 ศพๆละ 50 บาท และค่าบำรุงรายปี 270 บาท โดยทายาทและสมาชิกที่มาร้องเรียนอยากให้ตรวจสอบว่าการจัดตั้งกลุ่มฌาปนกิจผู้สูงอายุตำบลบ้านยางมีการรับรองก่อตั้งถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะที่มีชาวบ้านเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกจำนวนมากนั้น เพราะหลายคนเข้าใจว่าทาง อบต.มีส่วนร่วมก่อตั้งและดูแลกลุ่มฌาปนกิจดังกล่าวด้วย จึงเกิดความเชื่อมั่น และตรวจสอบการบริหารงานของคณะกรรมการกลุ่มฯ ว่ามีความบกพร่องอย่างไร อยากให้ชี้แจงแก่ญาติผู้เสียชีวิตแล้ว 33 ศพ แต่ยังไม่ได้รับเงิน ว่าจะได้รับวันไหน และอยากทราบจำนวนเงินที่มีอยู่ในกองทุนว่าเหลืออยู่เท่าไหร่
น.ส.มณีรัตน์ แซ่ตั้ง ทายาทสมาชิกฌาปนกิจ บอกว่า แม่ซึ่งเป็นสมาชิกได้เสียชีวิตไปเกือบ 7 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้เงินค่าทำศพสักบาท เดือดร้อนมากเพราะต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาสำรองจ่ายเป็นค่าจัดงานศพก่อน ทั้งที่ตั้งใจว่าจะได้เงินฌาปนกิจดังกล่าวมาแบ่งเบาะภาระค่าทำศพ แต่กลับต้องไปเป็นหนี้ซ้ำเติมอีก ตอนนี้ต้องหาเงินไปจ่ายทั้งต้นและดอกเบี้ย ก็อยากให้ทางกลุ่มเห็นใจและรีบนำเงินที่ค้างมาจ่ายด้วย แต่หากไม่จ่ายก็จะนำหลักฐานแจ้งความเอาผิดตามกฎหมายต่อไป
ด้าน น.ส.จิตรา ทัดสานะ ทายาทสมาชิกอีกราย บอกว่า ที่ชาวบ้านมาสมัครเป็นสมาชิกก็เพราะหวังว่าจะได้เงินไปเป็นค่าจัดการศพแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัวบ้าง แต่พอเกิดปัญหาทางกลุ่มค้างจ่ายเงินค่าทำศพของสมาชิกที่เสียชีวิตสะสมถึง 33 รายทำให้ทายาทต้องเดือดร้อนไปกู้ยืมเงินนอกระบบดอกร้อยละ 5 – 10 บาทเป็นค่าทำศพแทน ส่วนสมาชิกที่ยังไม่เสียชีวิตและยังจ่ายเงินศพล่วงหน้ารายเดือนทุกเดือน ก็เริ่มเกิดความไม่มั่นใจว่าจะเกิดปัญหาเหมือนกันหรือไม่ จึงได้พากันมายื่นร้องกับทาง อบต.ให้ตรวจสอบและช่วยเหลือ โดยทาง อบต.ก็รับปากจะหาแนวทางช่วยเหลือ แต่หากทางกลุ่มไม่จ่ายค่าทำศพให้สมาชิกที่ตายก็จะแจ้งความเอาผิดตามกฎหมาย
ด้านนายเฉลิมชัย ดาดผารัมย์ ประธานกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ผู้สูงอายุตำบลบ้านยาง ชี้แจงว่า กลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ผู้สูงอายุดังกล่าวก่อตั้งเมื่อประมาณปี 2557 เดิมเคยมีสมาชิกราว 1,500 คน แต่ตนเองเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานฯ ปี 2563 ปัจจุบันเหลือสมาชิก 857 คน โดยตอนที่ตนเข้ามารับตำแหน่งมีเงินเหลือในบัญชีกลุ่มฯ ประมาณ 34,600 บาทเศษ และตอนนั้นก็ค้างจ่ายค่าทำศพสมาชิกที่เสียชีวิตอยู่แล้ว 7 ศพ ส่วนปัญหาที่ค้างจ่ายค่าทำศพสะสมมาถึง 33 รายนั้น เนื่องจากสมาชิกหลายคนจ่ายเงินทำศพล่วงหน้ารายเดือนไม่ตรงตามกำหนด ประกอบกับสมาชิกบางส่วนก็ทยอยถอนตัวทำให้สมาชิกลดลง จนทำให้เกิดปัญหาค้างจ่ายค่าทำศพ แต่ยืนยันว่าตนและกรรมการบริหารงานด้วยความโปร่งใส ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะเร่งแก้ไข
ขณะที่นายก อบต.บ้านยาง ก็ได้ให้ทายาทสมาชิกกลุ่มฯ เขียนคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษรส่งมาให้ทาง อบต. จากนั้น อบต.ก็จะทำเรื่องให้ทางกลุ่มฌาปนกิจนำเอกสารมาชี้แจงเป็นลักษณ์อักษรเช่นกัน เพื่อจะได้หาทางออกและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป