วันที่ 4 พ.ย.65 ที่อาคารแสงสิงแก้ว ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ณัฎฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก สภ.เมืองนครพนม นายความสุข ไชยผง ผอ.รร.บ้านหนองปลาดุก นางฉวีวรรณ ฮึกเหิม นักพัฒนาสังคมชำนาญการ พมจ.นครพนม ร่วมแถลงสรุปเหตุการณ์คุณครู รร.บ้านหนองปลาดุก ถูกทำร้ายในห้องเรียน เมื่อ 3 พ.ย. 2565 เวลาประมาณ 11.00 น. ขณะที่นางสมไสว ภักดีล้น
ครูประจำ รร.บ้านหนองปลาดุก ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม กำลังสอนวิชาคณิตศาสตร์ อยู่ภายในห้องเรียน ชั้น2 นั้น ได้มี นายธานินทร์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา (ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นหลานคุณครู) ร้องตะโกนเสียงดังว่า ” อย่าสอนเสียงดัง ” ขณะที่ผู้ต้องหาอยู่หน้าบ้าน ซึ่งอยู่ข้างโรงเรียน จากนั้น คุณครูจึงได้รีบวิ่งไปบอกห้องเรียนข้างเคียงให้รีบปิดประตูห้องเรียน แล้ววิ่งกลับมาปิดประตูห้องเรียนที่ตนเองสอนอยู่ แต่ปิดล็อคประตูได้แค่ด้านหลังห้อง ส่วนด้านหน้าห้องปิดล็อคประตูไม่ได้ (ไม่มีกลอนประตู) ขณะที่คุณครูพยายามปิดประตูด้านหน้าห้องซึ่งล็อคไม่ได้นั้น นายธานินทร์ฯ ได้วิ่งตรงเข้ามาใช้มือดึงประตูไว้ ไม่ให้ปิด ซึ่งคุณครูพยายามดึงประตูเอาไว้ แต่ต้านทานแรง นายธานินทร์ฯ ไม่ไหว เมื่อนายธานินทร์ฯ เปิดประตูออกได้ ได้เข้ามาในห้องเรียนและทำร้ายร่างกายคุณครู โดยชกเข้าที่บริเวณใบหน้า และริมฝีปากบน ส่วนเด็กนักเรียนได้หลบอยู่ที่ใต้โต๊ะ จนกระทั่งมี นางสาว ปิยพัชร (สงวนนามสกุล) (พี่สาว) ได้วิ่งเข้ามาช่วยห้าม และได้ร้องตะโกนเสียงดังให้คนมาช่วยจากนั้นนายธานินทร์ฯ ได้วิ่งลงบันได แล้ววิ่งหลบหนีไป
จากนั้น คุณครูสมไสว ได้โทรศัพท์เข้าศูนย์ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เมื่อรับแจ้ง ร.ต.ต. ลือชัย การุณหน.สายตรวจตำบลบ้านผึ้ง สภ.เมืองนครพนม จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และต่อมา พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม, พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม, พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผกก.สส.ภ.จว.นครพนม พร้อมกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้จัดกำลังเข้าไล่ล่าจับกุม จนกระทั่งช่วงหัวค่ำวันเดียวกันได้จับกุมนายธานินทร์ ไชยบัวรินทร์ ผู้ต้องหา สำเร็จ โดยก่อนเกิดเหตุรับสารภาพว่า เสพยาบ้า จำนวน 2 เม็ด เมื่อนำปัสสาวะไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลนครพนม พบว่า มีสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า บุกรุกโดยใช้กำลัง
ประทุษร้ายในสถานที่ราชการ , ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ , และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ตรวจสอบประวัติ พบว่า เมื่อปี 2558 นายธานินทร์ฯ ผู้ต้องหา เคยต้องโทษฐาน พยายามฆ่าผู้อื่น โดยมีอาวุธไปในเมืองฯ ศาลจังหวัดนครพนมพิพากษาให้จำคุก 10 ปี จำเลยรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 5 ปี
พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า หลังจากที่คุณครูฯ ได้แจ้งโทรศัพท์แจ้งไปยัง 191 ภ.จว.นครพนม และได้แจ้งไปยัง ร.ต.ต. ลือชัย การุณ หน.สายตรวจตำบลบ้านผึ้ง สภ.เมืองนครพนม ซึ่งระยะทางประมาณ 3 กม. เดินทางด้วยความเร่งรีบ และได้พูดคุยกับคุณครู ขณะเข้าไปถึงผู้ก่อเหตุหลบหนีไปแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นสาเหตุมาจากการเสียงดัง คุณครูสอนตามปกติ เป็นนักเรียนระดับชั้นประถม มีกิจกรรมในการพูดคุยให้นักเรียนได้สนใจ ทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดความรำคาญ สาเหตุอาจจะเนื่องมาจากผลที่ได้รับยา มีอาการหงุดหงิด ก็เลยมาก่อเหตุ พี่สาวของคุณครูตะโกนแจ้งคุณครู คุณครูไปแจ้งห้องข้าง ๆ ว่า ผู้ก่อเหตุกำลังขึ้นมา มีการปิดประตูห้อง ปิดหน้าต่างให้เรียบร้อย คุณครูให้นักเรียนเข้าไปอยู่ในห้อง
ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันตัวในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ จ.หนองบัวลำภู ซึ่งจัดทำขึ้นโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งคลิปไปยังโรงเรียนต่าง ๆ ในการซักซ้อมแผน อย่างน้อยก็ทำให้มีการป้องกันตัวโดยการแอบซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะ เนื่องจากได้ดูคลิปกันมา มีการซักซ้อมแผนอยู่แล้ว โดยความห่วงใยของ ผบ.ตร. ให้มีความปลอดภัยในสถานศึกษาหรือศูนย์เด็กเล็ก และที่อื่น ๆ
นางฉวีวรรณ ฮึกเหิม นักพัฒนาสังคมชำนาญการ พมจ.นครพนม กล่าวว่า สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม ได้ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านหนองปลาดุก โดยในวันนี้นักเรียนชั้น ป.1 มีนักเรียนทั้งหมด 17 คน มาเรียนเพียง 2 คน สภาพจิตใจของเด็ก ๆ และคุณครูยังมีเรื่องของสภาพจิตใจมีความตกใจ หวาดกลัว หวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงครอบครัวของทุกคนเอง พมจ.นครพนม ได้มีสหวิชาชีพ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ที่ได้มีการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น มีการดำเนินการในเรื่องการประสานครอบครัว เพื่อลงไปเยียวยาเรื่องสภาพจิตใจ ความเครียด ค่อนข้างรุนแรง โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รพ.จิตเวชนครพนมราชนครินทร์ เข้าไปดูแล เรื่องของการเยียวยาในเรื่องครอบครัวที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง เพื่อที่จะให้กลุ่มเป้าหมายที่ประสบเหตุ ได้ลดความกังวล โดยในวันที่ 7 พ.ย. พมจ.นครพนม จะมีการลงพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้ให้ครอบครัวได้ปรับสภาพจิตใจในเบื้องต้นก่อน แต่ถ้าครอบครัวไหนยังมีความวิตกกังวลมาก ประสานงานมาที่ พมจ.นครพนม โทร.1304 โดยหน่วยเคลื่อนที่เร็วลงไปช่วยลดความวิตกกังวล แผนในการให้ความช่วยเหลือ พมจ.นครพนม มีศูนย์ให้ความช่วยเหลือเด็กประจำตำบลอยู่แล้ว ตั้งอยู่ที่ อบต.บ้านผึ้ง มีการวางแผนในการจัดกิจกรรมในเรื่อง กิจกรรม “หนี ซ่อน สู้” โดยการอบรมมีการให้ความรู้ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ มีการฝึกเสมือนจริงในการเข้าสถานการณ์จำลอง การให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ ตลอดจนหลักสูตนภาคปฏิบัติมีการจัดสถานการณ์จำลองโดยให้ทีมครูฝึกเป็นทั้งคนร้ายและเจ้าหน้าที่ ครูอาจารย์ รปภ. การหนี การซ่อน การสู้
นายความสุข ไชยผง ผอ.รร.บ้านหนองปลาดุก กล่าวว่า ทางโรงเรียนฯ มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยตามนโยบายของ สพป.เขต 1 นครพนม มีแผนซ้อมหนีไฟทุกภาคเรียน โดย อบต.บ้านผึ้ง แต่ในการหนีคนเรายังไม่เคยซ้อม เพราะยังไม่มีเหตุการณ์ เหมือน จ.หนองบัวลำภู แต่ในช่วงนี้ได้มีการเผยแพร่คลิปของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้นักเรียน คุณครู ได้เรียนรู้และศึกษา โรงเรียนเปิดได้ 2 วัน ยังไม่มีความพร้อมในการซ้อม ประตูทางเข้า- ออกโรงเรียนมี 2 ด้าน ปกติจะปิดใส่กุญแจ ได้รับการร้องเรียนว่า ใส่กุญแจไม่สะดวกในการติดต่อราชการของผู้ปกครอง จึงไม่ได้ใส่กุญแจ แต่ถ้าผู้ก่อเหตุก็สามารถปีนกำแพงเข้ามาในโรงเรียนได้ ถ้าไม่มีลางบอกเหตุอะไร การเรียนการสอนก็ไม่มีการปิดประตูหน้าต่าง โดยในขณะนี้ ชุดจิตอาสาได้เข้ามาตรวจสอบกลอนประตูหน้าต่าง และซ่อมแซมให้เรียบร้อย เนื่องจากในอนาคตอาจไม่ใช่ผู้ก่อเหตุคนเดิมที่เข้ามาก่อเหตุ มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน ต้องมีการเผยแพร่คลิปจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ทุกคนได้เรียนรู้ ตอนนี้ไม่ใช่เกิดเหตุการณ์แค่ไฟไหม้และน้ำท่วมเท่านั้น