ข่าวอัพเดทรายวัน

เกษตรจังหวัดนครพนมนำเกษตรกรต้นแบบศึกษาดูงานการผลิตและการใช้สารชีวภัณฑ์และแมลงศัตรูธรรมชาติ หวังต่อยอดนำมาใช้จริงลดใช้สารเคมีในพื้นที่การเกษตร

วันที่ 4 พ.ย.65 นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากที่ผ่านมาสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ดำเนินการถ่ายทอดความรู้ให้กับกลุ่มเกษตร ภายใต้กิจกรรมส่งเสริมลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร เพื่อที่จะสร้างกลุ่มเกษตรกรต้นแบบที่มีความรู้ในการผลิตสารชีวภัณฑ์และแมลงศัตรูธรรมชาติ เน้นการใช้เพื่อทดแทนสารเคมี และเพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้กับเจ้าหน้าที่และเกษตรกรในพื้นที่ สามารถต่อยอดสู่การสร้างรายได้และการทำการเกษตรที่ยั่งยืนในชุมชน โดยมีเกษตรกรที่ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ จำนวน 36 ราย จากทั้ง 12 อำเภอ ในจังหวัดนครพนม จากนั้นได้นำกลุ่มเกษตรกรที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรดังกล่าว เดินทางไปศึกษาดูงานการผลิตและการใช้สารชีวภัณฑ์และแมลงศัตรูธรรมชาติ เพื่อลดการใช้สารเคมีในพื้นที่การเกษตร โดยศึกษาดูงาน 3 แห่ง ได้แก่ 1.จังหวัดฉะเชิงเทรา ศึกษาดูงานการจัดการศัตรูพืชโดยชีววิธี ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 2. จังหวัดชลบุรี ศึกษาดูงานการผลิตแมลงศัตรูธรรมชาติ (มวนพิฆาต แตนเบียนอะซีโคเดส) ณ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดชลบุรี และการใช้แมลงศัตรูธรรมชาติควบคุมแมลงศัตรูพืช ณ สวนนงนุชพัทยา(แปลงไม้ผล และพืชผักออร์แกนิค) จังหวัดชลบุรี 3.จังหวัดกาฬสินธุ์ ศึกษาดูงานการบริหารจัดการศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน ณ ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนตำบลฆ้องชัยพัฒนา อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยสิ่งที่มุ่งหวัดให้เกิดขึ้น คือ กลุ่มเกษตรกรต้นแบบที่ได้รับความรู้จากการอบรมและการสร้างเสริมประสบการณ์จากการลงพื้นที่ศึกษาดูงานจริง สามารถนำความรู้ที่ตนเองได้รับกลับมาประยุกต์หรือปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการทำการเกษตร และมุ่งเน้นในการผลิตสารชีวภัณฑ์และแมลงศัตรูธรรมชาติ เพื่อมุ่งไปสู่การลดการใช้สารเคมีในพื้นที่การเกษตร ก่อให้เกิดสุขภาพของเกษตรกรดีขึ้น ต้นทุนการผลิตต่ำ ผลผลิตปลอดภัย และเป็นการทำการเกษตรที่ยั่งยืนได้อย่างมั่นคงของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครพนมและสำนักงานเกษตรอำเภอทั้ง 12 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดนครพนม ได้ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์แจ้งให้เกษตรกรมาขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปี 2565 เพื่อปรับปรุงข้อมูลด้านการเกษตรให้เป็นปัจจุบันและเป็นการลงทะเบียนเพื่อรองรับสิทธิ์การช่วยเหลือจากนโยบายของภาครัฐด้านต่างๆ โดยมีการตรวจสอบข้อมูลแล้ว จำนวน 1,473,958.51 ไร่ คิดเป็น 88% (ข้อมูล : วันที่ 22 กันยายน 2565) สำหรับทะเบียนเกษตรกรจะต้องมีการปรับปรุงข้อมูลให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบันในทุกๆปี หรือในทุกครั้งที่มีการเพาะปลูกพืช เพราะมีความสำคัญอย่างมากในการนำข้อมูลด้านการเกษตรเพื่อมาใช้ในการพัฒนาประเทศของภาครัฐ และยังเป็นฐานข้อมูลประกอบการขอตรวจรับรองสิทธิ์ของเกษตรกรกรณีที่ภาครัฐมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งจะทำให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรเป็นไปอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากเป็นเกษตรกรรายเก่าให้แจ้งปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรภายหลังจากการเพาะปลูกแล้ว 15 วัน แต่ถ้าเป็นเกษตรกรรายใหม่ไม่เคยขึ้นทะเบียนมาก่อน ให้ไปแจ้งขึ้นทะเบียน ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก เพื่อกรอกคำร้องขอขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อบันทึกข้อมูลเข้าระบบ หลักจากที่เจ้าหน้าที่เกษตรตำบลรับแจ้งขึ้นทะเบียนแล้ว จะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแล้วจะแจ้งให้เกษตรกรนำสมุดทะเบียนเกษตรกรมาปรับปรุงข้อมูลลงบนสมุดจัดเก็บไว้เพื่อแสดงตัวตน จึงขอให้เกษตรกรเตรียมความพร้อม และจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเพื่อความถูกต้อง รวดเร็วในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร สำหรับหลักฐานที่ใช้ในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ดังนี้ เกษตรกรเดิม แปลงเดิม ใช้บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง เกษตรกรรายใหม่ หรือรายเดิม เพิ่มแปลงใหม่ ใช้บัตรประจำตัวประชาชนตัวประชาชนตัวจริง พร้อมหลักฐานแสดงสิทธิการถือครองที่ดินตัวจริง หรือสำเนาที่มีการรับรองสำเนาจากผู้ครอบครอง สัญญาเช่าหรือหนังสือ รับรองการใช้ประโยชน์ทั้งนี้สามารถเรียกหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม อื่นๆ (ถ้ามี)

ขั้นตอนสำคัญที่ห้ามพลาด หลังจากขั้นตอนของการขึ้นและปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรแล้ว เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและจัดชุดข้อมูลสำหรับติดประกาศรายชื่อเกษตรกรเพื่อประชาคมในชุมชน หรือหมู่บ้าน โดยทางผู้นำชุมชนจะดำเนินการติดประกาศรายชื่อและข้อมูลของเกษตรกรที่ขึ้นและปรับปรุงทะเบียนไว้ ณ ศาลาประชาคมหมู่บ้าน หรือสถานที่ที่กำหนด โดยในขั้นตอนนี้ถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับเกษตรกรที่จะต้องให้ความสำคัญในการไปตรวจสอบและยืนยันข้อมูลด้วยตนเอง เพื่อรักษาสิทธิ์ของตนเองและเพื่อให้ข้อมูลที่ได้ถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งหากเกษตรกรไม่ให้ความสำคัญในการไปประชาคมแล้วการยืนยันข้อมูลอาจจะไม่สมบูรณ์อาจทำให้ข้อมูล หรือรายชื่อเกษตรกรตกหล่นและไม่ได้รับการแก้ไข อาจทำให้เกษตรกรรายดังกล่าวไม่ได้รับการช่วยเหลือจากนโยบายของภาครัฐ หรือเสียสิทธิ์ที่ตนเองพึงจะได้รับไปนั่นเอง ดังนั้นหากมีการติดประกาศประชาคมจากผู้นำชุมชนในพื้นที่ จึงอยากให้พี่น้องเกษตรกรเห็นถึงความสำคัญและอย่าเพิกเฉยที่จะรักษาสิทธิ์และยืนยันข้อมูลด้วยตนเอง และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและได้รับการยืนยันจากเกษตรกรแล้วก็จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ทำให้ท่านได้รับสิทธิ์ประโยชน์อย่างรวดเร็ว

สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม จึงขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรให้ความสำคัญในการไปตรวจสอบข้อมูลการติดประกาศประชาคมขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร เพื่อป้องกันไม่ให้เสียสิทธิ์ของตนเอง ทั้งนี้เกษตรกรสามารถสอบถามรายละเอียดหรือศึกษาเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน และสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม