ข่าวอัพเดทรายวัน

“วราวุธ” เปิดประชุม วิชาการบรรพชีวินวิทยานานาชาติ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านบรรพชีวินวิทยา ที่ขอนแก่น

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 พ.ย.65 ที่ ห้องประชุมออร์คิด บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออร์คิด จังหวัดขอนแก่น นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิด การประชุมวิชาการบรรพชีวินวิทยานานาชาติ ครั้งที่ 6 และเยี่ยมชมเปิดนิทรรศการอุทยานธรณี ซากดึกดำบรรพ์ และผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมด้วย ดร.อรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ศ.ดร.เหรียญบิน จาน เลขานุการสมาคมบรรพชีวินสากล โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น รศ. ดร. ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ให้การต้อนรับ พร้อมนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญทางทรัพยากรธรณี และซากดึกดำบรรพ์ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเข้าร่วมประชุมกว่า 400 คน

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่น เป็น 1 ใน 4 จังหวัดขนาดใหญ่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นศูนย์กลางของการคมนาคมขนส่งการแพทย์ และการศึกษาในภูมิภาค ตั้งอยู่บนเส้นทางหลักที่สามารถเชื่อมโยงไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกทั้ง ขอนแก่นยังเป็นแหล่งรวบรวมอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมที่อบอุ่นและหลากหลายทั้งด้านภาษา อาหาร และดนตรี ผู้ที่มาเยือนจังหวัดขอนแก่น จะเห็นรูปปั้นหรือหุ่นจำลองไดโนเสาร์นานาชนิด ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และโครงกระดูกขนาดมหึมา ที่มาจากการค้นพบซากไดโนเสาร์ กินเนื้อพวกสไปโนซอริด และไดโนเสาร์กินพืชขนาดยักษ์พวกภูเวียงโกชอรัส จนนำไปสู่การก่อตั้งศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ซึ่งเป็นศูนย์รวมการวิจัยและการศึกษาขนาดใหญ่ของชีวิตช่วงก่อนยุคประวัติศาสตร์ และการค้นพบเหล่านั้นยังนำไปสู่การจัดตั้ง

“อุทยานธรณีจังหวัดขอนแก่น” ซึ่งองค์การ UNESCO กำลังจะพิจารณาขึ้นทะเบียนให้เป็น “อุทยานธรณีระดับโลก” ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้และทำวิจัยด้านไดโนเสาร์ที่สำคัญของประเทศไทย และหากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง อุทยานธรณีระดับโลกแห่งนี้จะเป็นแห่งแรกที่มีใดโนเสาร์เป็นจุดดึงดูด

ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ ไม่ใช่ประโยชน์เพียงแค่ประเทศไทยเพราะว่ามีนักวิทยาศาสตร์ด้านบรรพชีวินมาจากทั่วโลก การศึกษาประวัติศาสตร์สมัยก่อนนับล้านปีมีการเรียกว่าการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในแต่ละช่วงเวลาแต่ละช่วงนั้นตั้งแต่จูลาซิค ไล่มาจนถึงวันนี้จะเป็นตัวชี้วัดได้ว่าอนาคตของโลกของเราจะไปในทิศทางใด เพราะว่าอุบัติการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมันกำลังย้อนรอยเกิดขึ้นในขณะนี้ก็จะเป็นตัวชี้วัดที่ดีถ้าหากว่าไม่เร่งแก้ไขอนาคตของโลกของเราก็จะสูญพันธุ์มนุษย์ของเราสิ่งมีชีวิตจะสูญพันธุ์ไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้น

นายวราวุธ ศิลปอาชา กล่าวอีกว่า การที่มีนักบรรพชีวินมาร่วมงานที่จังหวัดขอนแก่น จะมองเห็นในเรื่องของความสำคัญว่าเราอยู่ในจุดศูนย์กลางของแหล่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญของโลกจังหวัดขอนแก่นเรียกว่าอยู่ในหุบเขาไดโนเสาร์ ซึ่งเราเจอซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์ที่เป็นช้าง 10 กว่าสายพันธุ์ 10 กว่าสปีชีส์ด้วยกัน แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์และในพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในประเทศไทยนั้น เรามีสิ่งมีชีวิตอยู่นับล้านๆปีแล้ว การที่เรามาประชุมที่จังหวัดขอนแก่นเชื่อว่าจะได้สะท้อนให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของประเทศไทยที่เรามีอยู่กับวงการบรรพชีวินของโลก

“ในอนาคต ซากดึกดำบรรพ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดย กรมทรัพยากรธรณี ได้ประสานงานในหลายส่วนทั้งสถาบันการศึกษาและหน่วยราชการให้คอยดูแลรักษาแหล่งสร้างดึกดำบรรพ์ เพราะว่าการดูแลรักษาซากดึกดำบรรพ์เหล่านี้จะเป็นข้อมูลจะเป็นศาสตร์ ในการที่จะทำให้เราสามารถมองไปข้างหน้าว่าโลกของเรา เพราะไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่หมายถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกของเรานั้นในอนาคต จะไปในทิศทางใดจะเป็นอย่างไร จะได้ศึกษาจากประวัติศาสตร์นับล้านๆปีที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ดังนั้น หน้าที่ของกระทรวงทรัพย์ฯ คือดูแลรักษาทรัพยากรและสมบัติที่เรามี ไม่ว่าจะเป็นการหางบประมาณก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ ที่เรามีงบประมาณในการดูแลรักษาซากดึกดำบรรพ์ที่เรามีอยู่ หรือแม้แต่กรณีที่เรามีไม้กลายเป็นหินซึ่งเราเองก็ได้รับขึ้นชื่อเป็นประเทศที่เป็นเจ้าของไม้กลายเป็นหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

“การผลักดันของอุทยานธรณีโลก สำหรับตอนนี้เราผลักดันอยู่หลายพื้นที่ รวมถึงจังหวัดนครราชสีมาด้วย ที่จะขึ้นเป็นของยูเนสโก ขณะนี้ของจังหวัดนครราชมาได้อยู่ในลิสที่จะขึ้นในการพิจารณาของยูเนสโก ส่วนในของจังหวัดขอนแก่นก็เป็นอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมการอยู่ในระดับประเทศแล้วและก็กำลังเตรียมการยื่นเอกสารเรื่องอะไรต่างๆในการที่จะนำเสนอต่อยูเนสโก เข้าผ่านครม.เห็นชอบไปเรียบร้อยแล้วและก็จะมีการนำเสนอไปทางยูเนสโกต่อไปโคราชไปติดๆ”

จากนั้น นายวราวุธ ศิลปะอาชา พร้อมคณะได้เยี่ยมชมเปิดนิทรรศการอุทยานธรณี ซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งในจุดที่แสดงนิทรรศการนั้น มีการนำซากดึกดำบรรพ์ และไม้กลายเป็นหิน ซากปลากลายเป็นหินมาจัดแสดงให้ชม นอกจากนี้ยังมีการจัดทำอาหารโบราณ ซึ่งเป็นยำข้าวเกรียบ และเมี่ยงข้าวเกรียบกรอบให้รัฐมนตรี และผู้เข้าร่วมงานได้ชิมกันด้วย