จังหวัดยโสธร รณรงค์ Kick off ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี เพื่อลดการติดเชื้อ ลดอัตราป่วยหนัก และลดอัตราการตายของเด็กเล็ก เนื่องจากเด็กเล็กมีอัตราการป่วยมากกว่าเด็กโต 1.5 เท่า และมีอัตราการป่วยตายมากกว่าเด็กโตถึง 3 เท่า
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 5 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ โรงพยาบาลยโสธร นายแพทย์ยุทธนา สุริยะ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดการรณรงค์ Kick off ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 6 เดือน – 4 ปี จังหวัดยโสธร เป็นการรณรงค์ฉีดพร้อมกันทั้งจังหวัดยโสธร โดยมี นายแพทย์สุดชาย เลยวานิชย์เจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยโสธร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปกครอง และบุตรหลานร่วมงาน
ทั้งนี้ จังหวัดยโสธร โดย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร ร่วมกับ โรงพยาบาลยโสธร ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ Kick off ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 6 เดือน – 4 ปี พร้อมกันทั้งจังหวัดยโสธร เพื่อลดการติดเชื้อ ลดการป่วยหนัก และการเสียชีวิต ด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโครัสโคโรนา 2019 ของเด็กเล็กในจังหวัดยโสธร เนื่องจากเด็กเล็กมีอัตราการป่วยมากกว่าเด็กโต 1.5 เท่า และมีอัตราการป่วยตายมากกว่าเด็กโตถึง 3 เท่า จากการสัมผัสใกล้ชิดในครอบครัวรวมทั้งเด็กอาจไม่เคร่งครัดในการใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือมนเวลาเรียน เวลาเล่นหรือทำกิจกรรมอยู่รวมกัน ซึ่งผู้ปกครองสามารถนำบุตรหลายเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งใกล้บ้าน
โดย นายแพทย์ยุทธนา สุริยะ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร กล่าวว่า ถึงแม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้ม จะดีขึ้น และรัฐบาลลดระดับโควิด-19 จากโรคอันตราย มาเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายให้วัคซีนในกลุ่มเสี่ยงเพื่อลดความรุนแรงของการเจ็บป่วยและเสียชีวิต โดยได้แนะนำให้ฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 6 เดือน – 4 ปี เนื่องจากเด็กเล็กมีอัตราป่วยมากกว่าเด็กโต 1.5 และมีอัตราการป่วยตายมากกว่าเด็กโต ถึง 3 เท่า จากการสัมผัสใกล้ชิดในครอบครัว รวมทั้ง เด็กๆ ไม่เคร่งครัดในการใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือในเวลาเรียน เวลาเล่น หรือทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างไรก็ตามขอย้ำให้กลุ่มเสี่ยง 608 ยังต้องมารับวัคซีนกระตุ้น เนื่องจากขณะนี้ผู้เสียชีวิตจากโควิดยังเป็นกลุ่มนี้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องไปในพื้นที่เสี่ยงหรือร่วมกิจกรรมที่มีความเสี่ยง นอกจากนั้นยังขอเชิญชวนฉีดวัคซีนกระตุ้นในกลุ่ม 608 / กลุ่มประชาชนอายุ 5-59 ปี และกลุ่ม อสม.ให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 หรือ เข็มที่ 4 โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับการฉีดวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน