ความคืบหน้ากรณีที่รถกระบะตอนเดียว ยี่ห้อนิสสัน สีเขียว ทะเบียน บฉ-1820 บุรีรัมย์ ลักษณะเป็นรถนายฮ้อยใช้สำหรับบรรทุกวัวควาย พุ่งข้ามเลนชนรถรถปิคอัพยี่ห้อฟอร์ดเรนเจอร์ ซึ่งมีเจ้าของโรงแรมเป็นคนขับ ก่อนที่รถกระบะสีเขียวจะเสียหลักพุ่งเข้าไปชนร้านขายของริมถนน บริเวณบ้านไทรโยง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 พ.ย.65) เป็นเหตุให้ ด.ช.ธีรพล หรือน้องแสตมป์ วัย 4 ขวบ ที่กำลังนั่งกินข้าวเหนียวหมูปิ้ง กับพี่สาววัย 5 ขวบและแม่ ก่อนจะไปโรงเรียน ถูกแผ่นโต๊ะหินอ่อนที่รถพุ่งชนกระแทกอย่างแรงและทับตัวน้องวัย 4 ขวบจนบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่ รพ. เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว แม้หมอพยาบาลจะปั้มหัวใจช่วยเหลือเต็มความสามารถแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ล่าสุดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. (7 พ.ย.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ก็ได้ติดตามตัวนายสมรวย โพธิ์กลาง อายุ 65 ปี ชาว ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ ที่พุ่งชนร้านค้าจนน้องแสตมป์วัย 4 ขวบเสียชีวิตมาส่งพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบปากคำนายสมรวย อ้างว่าหลับในเพราะพักผ่อนน้อย แต่ปฏิเสธไม่ได้เมาแต่ยอมรับว่าดื่มเหล้าแต่ดื่มไปแค่เป๊กเดียวเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาจะหลบหนีแค่กลัวจะถูกญาติผู้เสียชีวิตทำร้ายเพราะหลังเกิดเหตุถูกผู้หญิงคนหนึ่งถีบที่หน้าอกไป 1 ครั้งจึงกลัว แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุไม่ได้เจตนา
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 2 ข้อหานายสมรวย คือ “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถคันอื่นมีผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย และขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นโดยไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรและไม่แจ้งเหตุต่อตำรวจที่ใกล้เคียงทันทีและแสดงตัวแจ้งชื่อตัวชื่อสกุลและที่อยู่ของตนและหมายเลขทะเบียนแก่ผู้ได้รับความเสียหายด้วย” และอยู่ระหว่างการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ หากเกินกฎหมายกำหนดก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
ส่วนบรรยากาศงานศพก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยพ่อแม่และลูกสาวคนโตวัย 5 ขวบ ก็ได้นำข้าวเหนียวหมูปิ้งที่น้องสแตมป์ชอบมาวางไว้ที่หน้าโรงศพ เพราะเมื่อตอนเกิดเหตุน้องกินข้าวเหนียวหมูปิ้งยังไม่อิ่มแต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุก่อน พร้อมกันนี้ยังได้นำเค้กรูปสไปเดอร์แมนที่น้องบอกอยากได้ก่อนจะเสียชีวิตมาให้น้องด้วย เพราะครอบครัวตั้งใจจะจัดวันเกิดครบรอบ 4 ขวบให้น้องในวันที่ 25 พ.ย.นี้อยู่แล้ว และได้ร้องเพลงแฮบปี้เบริ์ดเดย์หน้าโรงศพให้กับน้องแสตมป์ด้วย ท่ามกลางเสียงร้องไห้ ซึ่งเป็นไปด้วยความโศกเศร้าโดยเฉพาะแม่ลูกกอดคอกันร้องไห้
ด้านนายนพดล สิงหพันธ์ อายุ 33 ปี พ่อน้องแสตมป์ บอกว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าคนขับรถกระบะจะหลับในเพราะตอนเกิดเหตุยังเช้าอยู่ อีกทั้งภรรยาและคนที่อยู่ในเหตุการณ์หลายคนก็เห็นว่าคนขับเดินเซคล้ายกับคนเมา จึงเชื่อว่าน่าจะเมามากกว่าก็อยากให้ยอมรับความจริง และหากผลตรวจว่ามีระดับแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนด ก็อยากให้ตำรวจลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด ถึงแม้ว่าความจริงหากเป็นไปได้ก็อยากจะให้แลกด้วยชีวิต เพราะตนสูญเสียลูกไปไม่มีวันกลับ และที่เขาอ้างว่าที่ไม่ได้อยู่จุดเกิดเหตุเพราะตกใจ ตนไม่เชื่อเพราะหากไม่เจตนาจะหนีทำไมไม่ไปมอบตัวกับตำรวจแต่ทำไมถึงกลับไปบ้าน ก็อยากให้พูดความจริง และอยากฝากถึงผู้ขับขี่ว่าถ้าเมาก็ไม่ควรจะขับรถเพราะจะสร้างความสูญเสียให้กับคนอื่น