จากกรณีล็อตเตอรี่อลเวง คน ถูกล็อตตารี่ รางวัลที่1 งวดวันที่ 16 พ.ย.2565 คือนายมะนิช ปราณี อายุ 49 ชาวบ้านคางฮุงหมู่ 5 ต.ธวัชบุรี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ต้องน้ำตาคลอ หลังพาลูกเมียไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลากแล้ว โอนเข้าบัญชี นางอังคนารัตน์ กลั่นมณี อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นเมีย จากนั้นได้หอบเงินหนี ติดต่อไม่ได้ สร้างความไม่สบายใจแก่ตนและลูกๆ ก่อนนายมะนิช ตัดสินใจเข้าแจ้งเอาผิดกับเมียที่อยู่กินกันมา 26 ปี และมีลูกด้วยกัน 3 คน ในข้อหายักยอกทรัพย์ ที่ สภ.ธวัชบุรีไปแล้ว
ล่าสุดเวลา 10.00.น.วันที่ 21 พ.ย.2565 นางอังคนารัตน์ กลั่นมณี อายุ 49 ปี พร้อมนายมะนิช ปราณี อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นผัวเมียกัน ได้พานายอัฐพล ปราณี อายุ 18 ปี (ลูกคนกลาง) และ ด.ญ.อัจจริยรัตน์ ปราณี อายุ 11 ปี (ลูกคนสุดท้อง) เดินทางไปยังสำนักงาน ธกส.สาขาธวัชดินแดง เพื่อทำตามคำสัญญาว่าจะยินยอมคืนเงินที่เหลือในบัญเงินจำนวน 3.1ล้านบาท หลังนายมะนิช เข้าแจ้งความข้อหายักยอกทรัพย์
โดยก่อนหน้านี้นางอังคณารัตน์ ได้โอนให้ลูกชายคนโตไปแล้ว 2 แสนบาท โอนให้นายมะนิช ไปก่อนหน้า 1 ล้านบาท และส่วนหนึ่งตนได้นำไปใช้หนี้ที่มีอยู่ เหลือในบัญชี 3.1 ล้านบาทตกลงว่าจะโอนให้นายมะนิช 1.6 ล้านบาท ให้ลูกชายคนที่ 2 จำนวน 500,000 บาท และลูกสาวคนสุดท้อง จำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งลูกทั้ง 2 คน ให้นายมะนิช ผู้เป็นพ่อเปิดบัญชีร่วมด้วย สำหรับข้อกำหนดการเบิกถอนเงิน ลูกชายคนที่ 2 จะถอนเงินในบัญชีได้เมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนลูกสาวจะถอนเงินได้เมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป โดยพ่อลูกต้องไปทำเรื่องเบิกถอนด้วยกันทุกครั้ง
โอกาสนี้นายอรรครพงศ์ คูนาเอก ผจก.ธกส.สาขาธวัชดินแดงพร้อมเจ้าหน้าที่ธนาคาร ได้อำนวยความสะดวก และให้คำแนะนำในการเปิดบัญชีเพื่อป้องกันปัญหาเป็นอย่างดี
ในส่วนข้อตกลงกันไว้ในตอนแรกกับพนักงานสอบสวน สภ.ธวัชบุรี ว่าจะต้องโอนเวินคืนให้นายมะนิช 1.6 ล้าน นั้น
ปรากโว่านายมะนิช เกิดเห็นใจเมีย และลูกห่วงลูกจะไม่มีเงินใช้จ่ายไปโรงเรียน เพราะเงินในบัญชีลูกยังไม่สามารถเบิกถอนได้จึงให้เมียเก็บไว้ใช้จ่าย
หลังโอนเงินเข้าบัญชีแก่ทุกคนตามข้อตกลงที่ทำกันไว้ พ่อแม่และลูก 2 คน ได้ถ่ายรูปร่วมกันเพื่อเป็นหลักฐานว่าทุกอย่างจบแล้ว นายมะนิช พูดสั้นๆว่า วันนี้รู้สึกสบายใจขึ้น ไม่คิดมากอีกแล้วเพราะทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการ จากนี้จะขอใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ
ส่วนนางอังคณารัตน์ กลั่นมณี ผู้เป็นเมียบอกว่า วันนี้ได้คืนเงินให้หมดตามที่เขาต้องการแล้ว และไม่ได้คิดจะลงชื่อร่วมในบัญชีกับลูกแต่อย่างใด สำหรับเงินที่นายมะนิช ให้ไว้ 1 แสนก็จะเก็บไว้ใช้จ่ายให้ลูกไปเรียน เพราะอีกหลายปีลูกจึงจะถอนเงินออกมาใช้ได้ คำถามที่ว่า พ่อ แม่ ลูกจะกลับมาดีกันหรืออยู่ด้วยกันเหมือนแต่ก่อนนั้น เป็นไปได้หรือไม่ นางอังคณารัตน์ บอกว่าเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้ต่างฝ่ายต่างร้อน ต้องแยกทางกันไปก่อน อนาคตจะเป็นอย่างไรยังไม่ทราบ
หลังจัดการเรื่องโอนเงินเข้าบัญชีเสร็จ พ่อ แม่ ลูก จึงพากันเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.ธวัชบุรี เพื่อแสดงหลักฐานตามข้อตกลงและลงลายมือถอนแจ้งความ ยุติเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.สมศักดิ์ เกตุพิบูลย์ สารวัตรสอบสวน สภ.ธวัชบุรี รซึ่งเป็นเจ้าของคดีกล่าวว่า ดีใจที่เรื่องจบลงด้วยดี แต่ยังจะไม่มีการถอนแจ้งความ ที่นายมะนิช แจ้งไว้ จนกว่า จะมีการเปิดปัญชี โนเงินทั้งหมดตามที่ตกลงกันแล้ว จึงจะมีการบันทึกถอนแจ้งความในภายหลัง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหา ที่อาจจะไม่ทำตามสัญญา ซึ่งหากทุกอย่างเรียบร้อยก็จะให้บันทึกถอนแจ้งความต่อไป