ความคืบหน้ากรณีที่ พลทหารศรรัก วิเศษพันธ์ หรือตี๋ อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์สังกัดทหารอากาศ ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทย์ชกต่อยกับกลุ่มวัยรุ่นหน้าผับแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พอขับรถจักรยานยนต์จะกลับบ้านพร้อมกับน้าชายที่ไปเที่ยวด้วยกัน แต่พอมาถึงบริเวณสี่แยกไปรษณีย์ ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องชกต่อยกันหน้าผับขับ จยย. 2 คันๆ ละ 2 คน ไล่ติดตามมายิงปืนใส่ 1 นัดแต่ไม่โดน พลทหารศรรัก พยายามขับรถหนีแต่วัยรุ่นทั้ง 2 คันก็ขับไล่ตามประกบยิงซ้ำอีก 1 นัดที่บริเวณร้านขายอะไหล่ยนต์ใกล้กับสี่แยกไฟแดงวัดขุนก้อง ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง กระสุนเจาะเข้าชายโครงด้านขวาทะลุปอด เป็นเหตุให้พลทหารศรรัก นอนแน่นิ่งและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเวลาประมาณ 02.08 น. (23 พ.ย.65) ที่ผ่านมา
จากนั้นเวลา 06.00 น. (23 พ.ย.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.นางรอง ก็สามารถกุมตัวมือยิงพลทหารศรรัก ได้ 1 คน คือพีรพงษ์ แข็งฤทธิ์ หรือฉายา “อุ้ม หนองปล่อง” ขณะหนีกลับไปที่บ้านพักหลังหนึ่งในตำบลหนองปล่อง อ.ชำนิ พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. (23 พ.ย.65) พ.ต.อ.อนุการ ธรรมวิจารณ์ ผกก.สภ.นางรอง ได้นำกำลังตำรวจ สภ.นางรอง ควบคุมตัวนายพีรพงษ์ หรืออุ้มผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบการคำรับสารภาพจำนวน 4 จุด ในผับที่เข้าไปเที่ยวแล้วเกิดเขม่นกัน , บริเวณลานจอดรถด้านหน้าผับที่ชกต่อยกัน , สี่แยกไปรษณีย์ ที่ยิงปืนใส่นัดแรกแต่ไม่โดน และจุดที่ 4 คือใกล้สี่แยกวัดขุนก้องที่ยิงนัดที่สองจนพลทหารเสียชีวิต ซึ่งก่อนจะนำตัวนายอุ้ม ไปทำแผนแม่ของผู้ต้องหา ได้พาลูกชายของผู้ต้องหาวัย 8 ขวบเข้าโผกอดผู้เป็นพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะถูกดำเนินคดี
โดยนายอุ้ม ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งดื่มกินอยู่ในผับ จู่ ๆ ผู้ตายมาหาเรื่องน้อง ชายจนเกิดการชกต่อยกัน แต่ตนยังแค้น จึงโทรศัพท์เรียกเพื่อน ชื่อ นายวัชราวุฒิ หรือต้น อายุ 35 ปี ซึ่งไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน เอาปืนออกมาให้ จากนั้นได้มานั่งรอผู้ตายก่อนจะถึงสี่แยกไปรษณีย์ พอเห็นผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มากับน้า นายต้น จึงใช้ปืนยิงใส่ 1 นัด แต่กระสุนไม่โดน จากนั้นนายต้น จึงใส่กระสุนลูกใหม่เพราะยิงได้ทีละนัด แล้วส่งปืนให้ตนเอง ขับรถไล่ตามไปประกบยิงนัดที่ 2 จนเสียชีวิต รู้สึกเสียใจและขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย อ้างว่าก่อเหตุเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
ด้านนางสมจิตร รักชอบ อายุ 49 ปี แม่ของนายอุ้ม เล่าว่า นายอุ้ม ลูกชายกลับเข้าบ้านตอนประมาณ 05:30 น. พอมาถึงตะโกนเรียกให้ตนเปิดประตูจากนั้นลูกชายก็เข้ามากอดและบอกว่า ผมไปยิงคนตายมาครับ ตนตกใจมากไม่คิดว่าลูกจะทำแบบนี้ เพราะตอนอยู่บ้านลูกนิสัยดีไม่ค่อยพูด แต่เคยมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดติดคุกอยู่ 2 ปีเพิ่งออกไม่นานก็ไปบวช เพื่ออยากจะกลับตัวก็เพิ่งสึกออกมาไม่ถึงเดือน ไม่คิดว่าลูกจะก่อเหตุยิงคนตาย ก็เสียใจและอยากขอโทษครอบครัวผู้ตายด้วย
เบื้องต้นนายอุ้ม ถูกตั้ง 3 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ,ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ซึ่งล่าสุดศาลจังหวัดนางรองได้อนุมัติหมายจับนายวัชราวุฒิ หรือต้น เพื่อนผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในวันดังกล่าวเพิ่มอีก 1 คน