เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 25 พ.ย.2565 ที่สภ.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.ธนารัตน์ มีทองหลาง ผกก.สภ.ท่าพระ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าพระ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นเยาวชน อายุ 13-16 ปี ได้ รวม 4 คน มี เด็กชายณัฐ (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง ) อายุ 14 ปี ที่อยู่ 31/2 ม.1 ต.ชอนไพร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เด็กชาย โบ๊ท(ขอสงวนชื่อนามาสกุลจริง) อายุ 16 ปี ที่อยู่ 29 1 ม.6 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เด็กชาย เปรม (ขอสงวนชื่อ นามสกุล) อายุ 13 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.6 ต.ลอมคอม อ.พล จ.ขอนแก่น และเด็กชายโต้ ขอสงวนชื่อ นามสกุลจริง)อายุ 14 ปี ที่อยู่ 446 ม.10 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมกับยึดรถจักรยานยนต์ได้ 11 คัน
พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.2565 เป็นต้นมา มีผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ เข้าแจ้งความว่ารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ริมถนนหน้าบ้าน จากนั้นก็มีประชาชนทยอยเข้าแจ้งความกรณีถูกคนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้น จึงสั่งการให้ตำรวจ สภ.ท่าพระเร่งสืบสวนจับกุมคนร้าย เพราะเป็นการก่อเหตุที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเป็นจำนวนมาก
“ชุดสืบสวน สภ.ท่าพระ ได้ออกสืบสวนหาตัวคนร้าย กระทั่งพบ เด็กชายโต้ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ไม่ติดทะเบียน มีลักษณะเป็นรถแต่ง อยู่ในพื้นที่ ตำบลบ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงเรียกตรวจสอบ และตรวจเอกสารหาบุคคลที่เป็นเจ้าของรถ จนพบว่า รถคันที่ตรวจยึดได้พร้อมเด็กชายโต้นั้น มีเจ้าของรถแจ้งหายเอาไว้ที่สภ.ท่าพระ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงควบคุมตัวเด็กชายโต้มาสอบสวนขยายผลจนสามารถจับกุม เพื่อนร่วมแกงค์ ได้ รวม 4 คน และตรวจยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆได้รวม 11 คัน”
หลังจาก จับกุมได้ทั้ง 4 คน พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ได้ 11 คัน ทั้งหมดรับว่าได้ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์รถ จยย.ดังกล่าวหลายครั้งในพื้นที่ท่าพระ และพื้นที่ในตัวเมืองขอนแก่น โดยรถที่ลักมาได้จะนำมาแยกชิ้นส่วนอะไหล่ขาย หรือเอามายำสับเปลี่ยนอะไหล่เพื่อไม่ให้เจ้าของรถจำได้ แล้วนำมาขับขี่เล่น หรือแลกกันขี่ หรือใช้ขับขี่เพื่อไปก่อเหตุลักรถคันใหม่ต่อไปนั่นเอง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์หรือร่วมกันรับของโจร นำตัวผู้ต้องหาเยาวชน 4 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าพระ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.