จังหวัดยโสธรเปิดตัว อสม.ดีเด่น 12 สาขา ระดับจังหวัด ประจำปี 2566 พร้อมลงสนามสู่การคัดเลือก อสม.ดีเด่นระดับเขต ระดับภาคและระดับชาติ และอสม.ยโสธรทุกพื้นที่พร้อมรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ภายใต้กิจกรรม “ รวมพลัง อสม.ส่งต่อภูมิคุ้มกัน ป้องกัน 608 ให้ปลอดภัย ” เพื่อลดความรุนแรงของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร นายแพทย์ยุทธนา สุริยะ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดงานการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อสม.ต้นแบบดีเด่น ระดับจังหวัด ประจำปี 2566 และกิจกรรมการณรงค์ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภายใต้นโยบาย “ รวมพลัง อสม.ส่งต่อภูมิคุ้มกัน ป้องกัน 608 ให้ปลอดภัย ” โดยมีทีมผู้บริหารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านจากทุกอำเภอ ร่วมกิจกรรมครั้งนี้กว่า 200 คน โดยมี นางสุวรรณี แสนสุข รักษาการนักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ ด้านส่งเสริมพัฒนา เป็นผู้กล่าวรายงาน ซึ่งกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การมอบเกียรติบัตรแก่ อสม.ดีเด่น ของจังหวัดยโสธร จำนวน 12 สาขา และมอบป้ายรณรงค์“ รวมพลัง อสม.ส่งต่อภูมิคุ้มกัน ป้องกัน 608 ให้ปลอดภัย ” แก่ประธาน อสม.ทุกอำเภอและสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอ เพื่อเป็นสื่อสัญลักษณ์ในการจัดรณรงค์ในพื้นที่ทั้ง 9 อำเภอ ตลอดเดือนธันวาคม 2565 นี้ ทั้งนี้ นายแพทย์นายยุทธนา สุริยะ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร ยังได้ร่วมรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นนำร่องเป็นตัวอย่างในการรณรงค์ในครั้งนี้อีกด้วย ต่อด้วยการรับการฉีดวัคซีนจาก อสม.ที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้
นายแพทย์ยุทธนา สุริยะ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร กล่าวว่า การประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อสม.ต้นแบบดีเด่น ระดับจังหวัดในวันนี้ ผมถือเป็นเวทีที่สำคัญอีกเวทีหนึ่ง ถือเป็นการเปิดตัว อสม.ตัวแทนของจังหวัดยโสธรที่จะเข้าไปแสดงศักยภาพ อสม.ในการนำเสนอผลงานจากการทำงานในชุมชนตลอดมาในระดับเขต ภาคและประเทศต่อไป ซึ่งผลงานของพี่น้อง อสม.จังหวัดยโสธร เราได้สร้างชื่อเสียง มี อสม.ดีเด่นระดับชาติ จำนวน 9 คน อสม.ดีเด่นระดับภาค 19 คนและอสม.ดีเด่นระดับเขตสุขภาพอีก 45 คน ซึ่งน่าภูมิใจมาก การจัดกิจกรรมวันนี้ เป็นการพัฒนาศักยภาพ อสม. ควบคู่กับการยกย่องเชิดชูเกียรติ เสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน อสม.ดีเด่น 12 สาขา ปีนี้ได้แก่ 1.สาขาการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ นายกิตติพศ งามวงศ์ ตำบลโคกสำราญ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร 2. สาขาการส่งเสริมสุขภาพ นางบุญชู อกอุ่น ตำบลหนองมี อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร 3. สาขาการสุขภาพจิตชุมชน นางศรีไพร ทองใบ ตำบลดงแคนใหญ่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร 4. สาขาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน นางพวงพะยอม สมบัติหล้า ตำบลทรายมูล อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร 5. สาขาบริการในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (ศสมช.) และการสร้างหลักประกันสุขภาพ นางทองคำ สัตรูพ่าย ตำบลสงยาง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร 6. สาขาการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ นางดาวไสว พรหมสุวรรณ ตำบลโคกนาโก อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร 7. สาขาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ นายเฉลิม ใจน้อย ตำบลส้มผ่อ อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร 8. สาขาการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ในชุมชน นายชุ้น สุดช่วย ตำบลโคกนาโก อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร 9. สาขาการจัดการสุขภาพชุมชนและอนามัยสิ่งแวดล้อม นายเจริญ โสมาบุตร ตำบลสำราญ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร 10. สาขานมแม่ และอนามัยแม่และเด็ก นางกาญจนา สาริพันธ์ ตำบลกุดน้ำใส อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร 11. สาขาทันตสุขภาพ นางสาวคำเปลี่ยน ทองดี ตำบลบึงแก อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร และ 12. สาขาการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ นางอุไรวรรณ ประจวบสุข ตำบลค้อวัง อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร
พร้อมกันนี้ยังเป็นการ Kick off รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ในกลุ่ม อสม. ซึ่งสถานการณ์ในจังหวัดยโสธร พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต COVID-19 จังหวัดยโสธร ปี 2565 สัปดาห์ที่ 40 – 47 ระหว่างวันที่ 2 ตุลาคม – 26 พฤศจิกายน 2565 มีแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และมีพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน และผลการตรวจพบสายพันธุ์โอมิครอน BA.2.75 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในประเทศไทย
สถานการณ์วัคซีน ณ 28 พ.ย. 2565 จังหวัดยโสธร ช่วงรณรงค์จากวันที่ 21 ตุลาคมถึงปัจจุบันฉีดได้เพิ่มขึ้นรวม 1,264 เข็ม ผลการฉีดวัคซีนภาพรวมทุกกลุ่มอายุ เข็ม 3 ครอบคลุมร้อยละ 51.34 กลุ่ม 608 ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์ ความครอบคลุมเข็ม 3 ร้อยละ 78.87 เด็ก อายุ 6 เดือน – 4 ปี เข็ม 1 ความครอบคลุมร้อยละ 0.98 การได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 ของ อสม. ร้อยละ 89.99 การได้รับวัคซีนเข็มที่ 4 ของ อสม. ร้อยละ 9.66
นายแพทย์ยุทธนา สุริยะ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร กล่าวย้ำว่า วัคซีนโควิด 19 เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดการเสียชีวิตได้ ซึ่งหลังจากฉีดวัคซีนไประยะหนึ่งแล้ว ภูมิคุ้มกันที่มีจะลดลง จึงต้องมีการฉีดเข็มกระตุ้น ดังนั้น หากยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย ขอให้รีบมาฉีด และหากฉีดกระตุ้นเข็มสุดท้ายนานเกิน 4 เดือนแล้ว ขอให้มาฉีดเพิ่ม ซึ่งจากข้อมูลพบว่าการรับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 4 ช่วยลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ เพื่อเร่งเสริมภูมิคุ้มกันให้ทันช่วงปลายปีที่จะมีกิจกรรมเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานให้ทุกจังหวัดเร่งบริการฉีดวัคซีนมากขึ้นรวมถึงจัดบริการเชิงรุกในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่เป็นกลุ่มเสี่ยงด้วย และ แม้จะมีการฉีดวัคซีนแล้วแต่ยังต้องให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันส่วนบุคคล โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ สำหรับกลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับนานเกิน 6 เดือน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น หรือร่วมกิจกรรมที่คนจำนวนมากโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ส่วนคนในครอบครัวที่ไปสถานที่เสี่ยง หรือมีกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมากในช่วง 5 วัน ควรงดการใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ และหากพบว่ามีการติดเชื้อ ขอให้รีบพามาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อให้การรักษาได้ทันเวลา ซึ่งได้จัดยาและเวชภัณฑ์ไว้เพียงพอ รวมถึงเตียง สำหรับรองรับผู้ป่วยอาการปานกลางถึงรุนแรง จังหวัดยโสธรได้บริหารจัดการให้มีเพียงพอรองรับสถานการณ์เช่นเดียวกัน