ลุงวัย 69 ชาว อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ขับรถไถนาเดินตามบรรทุกไม้ยูคาลิปตัสจะไปขาย เกิดคานหักกลางถนนทำให้เหล็กมือบีบทิ่มเบ้าตาเลือดไหลนองทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 1 ธ.ค.65 ร.ต.อ.อนันท์ ศรีเสน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีรถไถนาเดินตาม หรือรถอีแต๊กที่ใช้สำหรับการเกษตร ประสบอุบัติเหตุคานเหล็กหักกลางถนน สายละลวด-โคกไม้แดง ต.บ้านสิงห์ อ.นางรอง ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับอำเภอชำนิ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุดอำเภอชำนิ ร่วมตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ
เมื่อไปถึงพบนายพุทธวง หลงละลวด อายุ 69 ปี ชาวบ้านหนองม่วง ต.ละลวด อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นคนขับรถไถนาเดินตามคันที่เกิดเหตุ นอนหมดสติอยู่บนท่อนไม้ยูคาลิปตัสคาดว่าน่าจะถูกท่อนไม้กระแทกจนสลบ และที่บริเวณเบ้าตาข้างขวาเป็นแผลฉกรรจ์คล้ายถูกของแข็งทิ่มอย่างแรงมีเลือดออกจำนวนมาก หน่วยกู้ภัยจึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนจะรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลชำนิ เพราะอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุจุดเกิดเหตุ ซึ่งเมื่อไปถึง รพ.ทั้งแพทย์ พยาบาลก็ทำการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่นายพุทธวง ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบคานเหล็กที่ต่อระหว่างรถไถนาเดินตาม หรืออีแต๊ก กับกระบะไม้ที่ต่อพ่วงท้ายเพื่อใช้บรรทุกไม้ยูคาลิปตัสหักออกจากกัน คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ และที่บริเวณมือบีบตรงคันเร่งซึ่งเป็นเหล็กค่อนข้างแหลมมีคราบเลือดติดอยู่ จึงสันนิษฐานว่าเหล็กดังกล่าวน่าจะทิ่มที่เข้าที่เบ้าตาของนายพุทธวง จนบาดเจ็บสาหัสจนทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต
สอบถามภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า สามีออกไปตัดไม้ยูคาลิปตัสที่สวนตั้งแต่ตอนเช้า ช่วงบ่ายก็จะบรรทุกไม้ยูคาลิปตัส แต่ระหว่างจะขับไปขายก็เกิดอุบัติเหตุ พอเย็นก็เอาไม้ไปขาย แต่ระหว่างทางก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งคาดว่าสามีน่าจะบรรทุกไม้ยูปคาหนักเกินไปจนทำให้คาดหักแล้วเกิดอุบัติเหตุ ก็เสียใจไม่คิดว่าสามีจะมาจากไปแบบนี้
จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ประกอบอาชีพต่างๆ ว่าไม่ควรจะบรรทุกน้ำหนักมากเกิน และควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งานเสมอ