พลตำรวจตรี สถาพร เอมโอษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ เผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาเรามีการกวดขันจับกุมและปราบปรามเรื่องยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการเพิ่มความเข้มงวดตามแนวชายแดน มีการเพิ่มในเรื่องของมาตรการเชิงรุกนั่นก็คือหมายถึงว่าการเข้าไปแสวงหาข้อมูลความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนรวมถึงผู้นำท้องถิ่นเพื่อที่จะได้มีการดำเนินการกวดขันจับกุมกับผู้ที่มีพฤติการณ์ในการที่จะทำการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามายังประเทศไทยหรือเรื่องของการที่จะให้ความร่วมมือหรือว่าเข้าไปเกี่ยวข้องมีพฤติการที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ค้าจะติดซึ่งจะเป็นกลุ่มที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเราเองก็ได้เพิ่มมาตรการเชิงรุกตัวนี้เข้าไปแล้วก็มีมาตรการในเรื่องของการเข้าไปค้นหาผู้เสพเพื่อที่จะ นำเข้ามาสู่กระบวนการในการของการบำบัด เมื่อกรณีว่าเราค้นหาผู้เสพได้มากเท่าไหร่ก็จะนำไปรักษาเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นในเมื่อผู้เสพลดน้อย ความต้องการของตลาดในเรื่องของยาเสพติดก็จะลดน้อยถอยลงไปด้วยแต่เพราะฉะนั้นมาตรการ 2 อย่างนี้เราได้ทำควบคู่กันไปนะครับเป็นเรื่องของมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและการบำบัดในปัจจุบันนะครับ
นอกจากนี้ผู้การอำนาจเจริญป้ายแดงยังบอกอีกน่ำอีกว่า ตำรวจต้องเป็นตัวแทนของประชาชนปกป้องประชาชนให้ประชาชนพึ่งได้ หากสืบทราบว่าข้าราชการตำรวจท่านใดคนใดไม่ว่าจะเป็นระดับไหนในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญมีพฤติกรรมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายใดๆตนจะไม่เอาไว้เด็ดขาดจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อป็นตัวอย่างให้กับข้าราชการตำรวจคนอื่นๆจะได้ไม่กล้าคิดจะไปข้องเกี่ยวกับขบวนการยาเสพติดอีกต่อไปหากพบและมีหลังฐานว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวจะโดนให้ออกไล่ออกสถานเดี่ยวหากสืบทราบว่าไปยุ่งเกี่ยวหรือไปพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดให้โทษ ในการเข้มงวดทั้งนี้ก็เพราะจังหวัดอำนาจเจริญเป็นเมืองชายแดนที่มีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านชึ่งในอดีตมีการขนย้ายยาเสพติดจากจากแนวชาวแดนประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาสู่พื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้เองตนจึงต้องเข้มงวดในเรื่องนี้ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือ ท่านพลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยเคร่งครัด