ตำรวจยโสธรสกัดจับรถกระบะแต่งซิ่งต้องสงสัยซึ่งมีสองผัวเมียนั่งมาในรถและจากการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 38,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณช่องประตูด้านข้างและคอนโซลใต้คันเกียร์โดยทั้งคู่รับสารภาพว่านำยาบ้ามาจากชายแดนมุกดาหารและกำลังจะนำไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดยโสธร ร้อยเอ็ดและสุรินทร์
พันตำรวจเอก ภูมิ ทองโพธิ์ ผู้กำกับการกลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ออกสกัดตามเส้นทางและไล่ติดตามรถต้องสงสัย ภายหลังจากได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีรถต้องสงสัยเป็นรถกระบะยี่ห้ออีซุซูดีแม็กสีดำคันหมายเลขทะเบียน บฉ- 7529 มุกดาหาร ลำเลียงยาบ้าเข้ามาในพื้นที่จังหวัดยโสธรโดยมีต้นทางมาจากจังหวัดมุกดาหาร ผ่านอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ก่อนจะเข้าสู่ตัวจังหวัดยโสธร จนกระทั่งไปพบรถกระบะคันดังกล่าวซึ่งมีลักษณะแต่งซิ่งโหลดเตี้ยวิ่งมาตามถนนวารีราชเดช มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองยโสธร จึงได้ขับรถไล่ติดตามพร้อมกับประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจงานจราจรสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธรช่วยตั้งด่านสกัดบริเวณสี่แยกบายพาสตำบลเต่า ตำบลน้ำคำใหญ่ อำเภอเมืองยโสธร และขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงช่วยไล่ติดตามอีกแรงจนสามารถสกัดรถกระบะคันดังกล่าวให้จอดข้างทางได้บริเวณสะพานบ้านตับเต่า ก่อนถึงสี่แยกบายพาสตับเต่า โดยภายในรถมีชายเป็นคนขับและมีหญิงสาวนั่งคู่มาด้วย ซึ่งทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันทราบชื่อ นายวัชรากร วาปี อายุ 27 ปี และนางสาวจุฑามาศ แก่นนาคำ อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดมุกดาหาร และรับว่ามียาบ้าซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะของตนจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวทั้ง 2 คน พร้อมด้วยรถกระบะนำไปตรวจค้นให้ละเอียดที่บริเวณด้านหน้ากองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร และจากการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยเทปกาวสีน้ำตาล จำนวน 19 มัด มัดละ 2,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณช่องด้านในของประตูรถฝั่งซ้ายและช่องคอนโซลใต้คันเกียร์ รวมยาบ้าที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ประมาณ 38,000 เม็ด
จากการสอบถาม นายวัชรากร วาปี ผู้ต้องหารับสารภาพว่ายาบ้าเป็นของตนเองทั้งหมดและกำลังจะลำเลียงยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดยโสธร,จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดสุรินทร์ โดยจะได้ค่าจ้างมัดละ 1,500 บาท ถ้าหากส่งงานเสร็จสมบูรณ์ โดยยาบ้าทั้งหมดรับมาจากนักค้ายาบ้าชาวลาวซึ่งตนไปรับมาจากริมฝั่งแม่น้ำโขงในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารในเที่ยวนี้รับมาทั้งหมด จำนวน 20 มัด และส่งให้ลูกค้าไปแล้ว จำนวน 1 มัด ในพื้นที่อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ส่วนที่เหลือกำลังจะไปส่งในตัวเมืองยโสธร อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด และพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเสียก่อน โดยอ้างว่า นาวสาวจุฑามาศ แก่นนาคำ ซึ่งเป็นภรรยาไม่รู้เรื่องด้วยเพียงแค่นั่งมาเป็นเพื่อนเฉยๆ ซึ่งผู้ต้องหายังรับสารภาพว่าตนเคยมาส่งยาบ้าในพื้นที่จังหวัดยโสธรมาแล้วประมาณ 2-3 เที่ยว แต่ไม่เคยถูกตรวจค้นหรือถูกจับกุมมาก่อน
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมยาบ้าของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธรดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายต่อไป