ข่าวอัพเดทรายวัน

ยโสธรแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 42,000 เม็ด

ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมยาบ้าของกลาง จำนวน 42,000 เม็ด และตรวจยึดทรัพย์สินตามมาตรการรวมมูลค่ากว่า 1,150,000 บาท โดยสามารถจับกุมได้ขณะที่ผู้ต้องหากำลังลำเลียงยาบ้าทั้งหมดไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดยโสธร

ที่บริเวณด้านหน้ากองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร นายวิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ธเนศ เทพสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร พันตำรวจเอก สานิตย์ ไชยสถิต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร และพันตำรวจเอก ภูมิ ทองโพธิ์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้อง 2 คน พร้อมด้วยยาบ้าของกลาง จำนวน 42,000 เม็ด รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน และสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองรวมน้ำหนักประมาณ 3 บาท

หลังจากที่เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันที่ 6 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีเครือข่ายค้ายาบ้ารายสำคัญลำเลียงยาบ้าผ่านพื้นที่จังหวัดยโสธรจึงได้ทำการสืบสวนหาข่าวจนทราบรายละเอียดรูปพรรณรถยนต์ที่ใช้ในการลำเลียงยาบ้าและได้วางแผนไล่ติดตามจับกุมจนกระทั่งไปพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยวิ่งอยู่บนถนนวารีราชเดช กำลังมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองยโสธร ซึ่งเป็นรถกระบะแต่งซิ่งโหลดเตี้ยยี่ห้ออีซูซุรุ่นเอ็กซ์ซีรี่สีดำคันหมายเลขทะเบียน บฉ- 7529 มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าสกัดและส่งสัญญาณให้หยุดรถที่บริเวณสะพานบ้านตับเต่า ก่อนถึงสี่แยกบายพาสตับเต่า ตำบลน้ำคำใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร โดยมี นายวัชรากร วาปี อายุ 27 ปี ชาวอำเภอเมืองมุกดาหาร เป็นคนขับและมี นางสาวจุฑามาศ แก่นนาคำ อายุ 20 ปี ชาวอำเภอดงเหลวง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นภรรยาของนายวัชรากรฯนั่งคู่มาด้วย จากการตรวจค้นในรถกระบะพบยาบ้าที่พันด้วยเทปกาวสีน้ำตาล จำนวน 21 มัด มัดละ 2,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ช่องด้านข้างประตูรถทั้ง 2 ข้าง และช่องคอนโซลใต้คันเกียร์ ซึ่ง นายวัชรากรฯให้การรับสารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเองที่รับมาจากนักค้ายาบ้าชาวลาวโดยรับมาจากชายแดนจังหวัดมุกดาหาร และกำลังจะนำไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดสุรินทร์ โดยจะได้ค่าจ้างส่งยาบ้ามัดละ 1,500 บาท และรับว่าเคยมาส่งยาบ้าในพื้นที่ยโสธรประมาณ 2-3 ครั้งแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการและติดตามไปตรวจยึดทรัพย์สินที่บ้านของผู้ต้องหาได้รถยนต์กระบะอีก 1 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน และสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองน้ำหนักประมาณ 3 บาท รวมมูลค่าของทรัพย์สินที่ตรวจยึดในครั้งนี้ จำนวน 1,150,000 บาท นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อไป