ข่าวอัพเดทรายวัน

ยโสธรเปิดโครงการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธรร่วมใจขับขี่ปลอดภัย 365 วัน

ตำรวจภูธรจังหวัดยโสธรเปิดโครงการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธรร่วมใจขับขี่ปลอดภัย 365 วันเพื่อสร้างจิตสำนึก สร้างวินัยให้กับข้าราชการตำรวจและครอบครัว และทุกภาคส่วน ให้ใช้อุปกรณ์นิรภัยในขณะขับขี่ยานพาหนะให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และปฏิบัติตามกฎจราจร โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทางข้าม

วันที่ 8 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น.ที่บริเวณด้านหน้าอาคารที่ทำการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร พล.ต.ต.ธเนศ เทพสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ร่วมใจ ขับขี่ปลอดภัย 365 วัน ด้วยตำรวจภูธรภาค 3 ได้จัดทำโครงการ “ตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมใจ ขับขี่ปลอดภัย 365 วัน” เพื่อขับเคลื่อนดำเนินการในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และการเสียชีวิต ในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค ๓ และเพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกและสร้างการมีส่วนร่วมในการใช้รถใช้ถนน ต้องใช้อุปกรณ์นิรภัย และต้องปฏิบัติตามกฎจราจร โดยเฉพาะการป้องกันอุบัติเหตุมิให้เกิดขึ้นบนทางข้าม (ทางม้าลาย) หรือคนเดินเท้า โดยให้ตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัดตำรวจภูธรภาค ” ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการปฏิบัติตามโครงการฯ ดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดปี 2565 ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและเป็นการขับเคลื่อนตามโครงการ “ตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมใจ ขับขี่ปลอดภัย 365 วัน” อย่างเป็นรูปธรรม ตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร จึงได้ดำเนินการจัดทำโครงการ “ตำรวจภูธรจังหวัดยโสธรร่วมใจ ขับขี่ปลอดภัย 365 วัน” ขึ้นในวันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างจิตสำนึก สร้างวินัยให้กับข้าราชการตำรวจและครอบครัว และทุกภาคส่วน ให้ใช้อุปกรณ์นิรภัยในขณะขับขี่ยานพาหนะให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และปฏิบัติตามกฎจราจร โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทางข้าม (ทางม้าลาย) เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ ลดความรุนแรงต่อชีวิตและร่างกาย รวมถึงความเสียหายของทรัพย์สินจากอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร เพื่อแสวงหาความร่วมมือ การเข้ามามีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และเพื่อเป็นการสร้างมาตรการองค์กร สร้างสังคมต้นแบบในการปฏิบัติตามกฎหมายและวินัยจราจร โดยภายในงานมีการมอบหมวกนิรภัยให้กับผู้กำกับการและหัวหน้าสถานีตำรวจทุกสถานีในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดยโสธรทั้ง 11 สถานี เพื่อจะได้นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบได้สวมใส่เวลาขับขี่รถจักรยานยนต์ได้อย่างปลอดภัยต่อไป