วันที่ 9 ธันวาคม 2565 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายแพทย์กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม (ด้านเวชกรรมป้องกัน) เป็นประธานการประชุมการให้บริการวัคซีน COV|ID-19 คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข(Emergency Operation Center : EOC) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ครั้งที่ 2/๒๕๖๕ (ในรูปแบบออนไลน์ Zoom Meeting และแบบเข้าร่วมประชุม) ผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้รับผิดชอบงานการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ผู้รับผิดชอบงานวัคซีนโควิด-19 (Mr. vaccine) และผู้รับผิดชอบงานฐานข้อมูลวัคซีนโควิด-19 โดยมีนายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดการประชุมพร้อมมอบแนวนโยบายปฏิบัติผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ระบบ Zoom Meeting
นายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายให้วัคซีนโควิด-19 เพื่อลดความรุนแรงของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประชาชนไทย โดยหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ได้ประกาศยกเลิกโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตรายและปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตามคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีผลในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 แต่ยังมีความจำเป็นต้องเร่งรัดให้วัคซีนโควิด-19 วัคซีนไฟเซอร์ (ฝาสีแดง) สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี ให้เด็กได้รับวัคซีนครอบคลุม และทุกกลุ่มเป้าหมายจำเป็นต้องรับเข็มกระตุ้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อเนื่อง
“คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ได้กำหนดกลุ่มประชาชนเป้าหมายฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1) กลุ่ม อสม. ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) ครอบคลุมร้อย 100 2) กลุ่มเสี่ยง 608 ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) ครอบคลุมร้อยละ 60 3) กลุ่มเด็กเล็ก อายุ 6 เดือนถึง 4 ปี ได้รับวัคซีนเข็มแรกครอบคลุม ร้อยละ 30 และ 4) ทุกกลุ่มประชากร ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) ครอบคลุม ร้อยละ 60 ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2565”
ที่ประชุมได้มีการเสนอเรื่องเพื่อพิจารณาและสั่งการ คือ โครงการวัคซีน SXP-GPO Vaccine ระยะที่ 3 ซึ่งได้เพิ่มจำนวนอาสาสมัครในพื้นที่อำเภอธาตุพนม อำเภอท่าอุเทน และอำเภอเมือง รวมทั้งเรื่องการจัดการฐานข้อมูลโควิด-19 จังหวัดนครพนม