ข่าวอัพเดทรายวัน

นครพนม บูรณาการหน่วยความมั่นคงปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกลางนครพนม

วันที่ 20 ธันวาคม 2565 เวลา 5.00 น. ที่จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายจรูญ เหง่าลา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครพนม บูรณาการหน่วยความมั่นคง ซึ่งประกอบไปด้วย มณฑลทหารบกที่ 210 หน่วยเรือรักษาความสงบเรีบยบร้อยตามลำแม่น้ำโขง กองกับกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม กองร้อยตำรวจตะเวนชายแดนที่ 236 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายปกครอง และกำลังพลจากราชทัณฑ์ รวม 222 นาย เข้าจู่โจมตรวจค้นผู้ต้องขังและพื้นที่ภายในเรือนจำกลางนครพนม เพื่อตรวจหายาเสพติด โทรศัพท์มือถือ และสิ่งของต้องห้าม สิ่งของที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ผู้ต้องขังมีและเก็บรักษาไว้ในเรือนจำ ตามยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นความมั่นคง ภายใต้แนวคิดความมั่นคงแบบองค์รวม ที่กำหนดเป้าหมายสำคัญคือ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข รวมถึงนโยบายกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ที่กำหนดให้เรือนจำ ทัณฑสถานต้องปลอดจากยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือ อันเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดโดยสิ้นเชิงร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยจะต้องทำการจู่โจมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบหาสิ่งของต้องห้ามอันจะก่อให้เกิดความวุ่นวายในเรือนจำ เช่น ยาเสพติด โทรศัพท์เคลื่อนที่ อาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธ อุปกรณ์ในการเล่นการพนัน รวมถึงสิ่งของที่ไม่อนุญาตให้ผู้ต้องขังมีและเก็บรักษาไว้ในเรือนจำ เนื่องจากเป็นมาตรการหนึ่งในการควบคุมและรักษาความปลอดภัย ประกอบกับจังหวัดนครพนม มีนโยบายในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยระดมกำลังทุกภาคส่วนปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดตามแผนยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง

นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในการจู่โจมตรวจค้นในครั้งนี้ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือการกระทำความผิดแต่อย่างใดจากผู้ต้องขัง จำนวน 2,745 คน รวมถึงบริเวณพื้นที่ทั้งหมดของเรือนจำกลางนครพนม ที่มีเนื้อที่รวม 39 ไร่ 1 งาน 49 ตารางวา โดยในโอกาสนี้ก็ได้มีการเยี่ยม พูดคุย และให้กำลังใจ ผู้ต้องขัง ทั้งหญิง และชาย เพื่อทำให้ข้อคิด คำแนะนำ ทำให้ทุกคนได้เห็นโอกาสในการกลับตัวเป็นคนดีของสังคม ไม่ว่าจะเป็น การปฏิบัติตัวในระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ ที่แม้จะต้องอยู่ในระเบียบวินัย ถูกควบคุม แต่ทางเรือนจำก็เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังทุกคนได้ศึกษาหาความรู้ ฝึกทักษะอาชีพในหลายๆ อาชีพ ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของแต่ละคน เช่น การทำขนบขบเคี้ยว ทำขนมเค้ก และอาหาร หรือแม้กระทั่งงานฝีมือต่าง ๆ โดยทางหน่วยงานราชการทุกหน่วยพร้อมให้การสนับสนุน ซึ่งหลังจากนี้ถ้าหน่วยงานราชการมีการจัดกิจกรรมและมีความจำเป็นต้องใช้อาหารว่าง หรืออยากได้งานฝีมือของผู้ต้องขังที่มีความสวยงาม ก็จะขอให้มีการสั่งออร์เดอร์เข้ามาที่เรือนจำ เพื่อเป็นกำลังให้ผู้ต้องขังจะได้มีรายได้ ที่สำคัญได้ฝึกอาชีพ และเมื่อก้าวพ้นจากเรือนจำออกไปสู่สังคมแล้วจะได้กลับตัวเป็นคนดี มีอาชีพติดตัว สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัว ไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำและไปก่อปัญหาให้สังคม