วันที่ 22 ฑันวาคม 2565 เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ที่บริเวณปากทางเข้าสถานีขนส่งอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นผู้หญิง 2 คนลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างโดยลากจูงรถเข็นมาด้วย 1 คัน โดยมีถังไอศกรีมอยู่ที่พ่วงข้างและบนรถเข็น จากนั้นจอดรถจักรยานยนต์โดยมีลูกค้ามาซื้อไอศกรีมเป็นระยะ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้แสดงตนเข้าตรวจสอบผู้หญิงทั้ง 2 คน ซึ่งสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ เพื่อขอให้แสดงเอกสารประจำตัวแต่ไม่มีเอกสารใดๆ เลย พร้อมให้การว่าพวกตนเป็นชาวกัมพูชาได้ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อเข้ามาทำงานเร่ขายไอศกรีมประมาณ 1 เดือนแล้ว โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างและรถเข็นเร่ขายไอศกรีมที่รับมาเองขายแบบถ้วยและขนมปังราคาอันละ 15-30 บาท ที่บริเวณ บขส.อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าการเร่ขายของเป็นอาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ และการลักลอบเข้ามาในประเทศไทยก็ผิดกฎหมายด้วย ซึ่งทั้ง 2 คนก็ทราบแต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจไม่ดีจึงต้องเข้ามาหารายได้ในประเทศไทยแม้จะเสี่ยงต่อการถูกเจ้าหน้าที่จับกุมก็ตาม
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาให้ทราบว่า“เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองพ.ศ.2522 และ “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2561 จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่ง พงส.สภ.ปราสาท จว.สุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทางด้าน พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ ได้กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า(โควิด-19) และสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของประเทศเพื่อบ้านทำให้มีคนต่างด้าวพยายามเข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งรัด กวดขันจับกุมมาโดยตลอด พร้อมกับได้มีการบูรณาการกำลังหลายภาคส่วนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมกันปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป