แชร์ว่อนคลิป ตร.แต่งกายครึ่งท่อนอาการคล้ายเมา ขับเก๋งพุ่งชนป้าวัย 61 ปี ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จูงจักรริมถนนหน้า ร.ร.ตัวลอยกระแทกกระจกหน้ารถแตกอาการสาหัส แต่ปัดแค่เฉี่ยวแถมขู่ชาวบ้านที่ถ่ายคลิปเป็นหลักฐานตอนเกิดเหตุ ถ้าโพส์ตลงโซเชียลจะฟ้องเอาผิด ชาวบ้านหวั่นคนเจ็บไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะไม่เห็นวัดระดับแอลกอฮอล์ช่วงเกิดเหตุ
วันที่ 22 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปภาพเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง แต่งกายครึ่งท่อน อาการคล้ายมึนเมา ขับรถเก๋งสีขาวพุ่งชนนางคะเน มาศรี อายุ 61 ปี ชาวบ้านโคกว่าน ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ขณะจูงจักรยานอยู่ริมถนนสายละหานทราย-โคกว่าน บริเวณหน้าโรงเรียนชุมชนโคกว่าน อ.ละหานทราย จนได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนางรอง โดยสภาพรถจักรยานที่ถูกชนพังเสียหาย ส่วนรถเก๋งที่ชนสภาพกันชนด้านหน้าฝั่งพังเสียหาย และกระจกด้านหน้าฝั่งซ้ายมีรอยแตกร้าวเหมือนกับกระแทกอย่างแรง จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งคันเกิดเหตุ แต่งกายครึ่งท่อน ทราบภายหลังว่ายศ ร.ต.ต. ปฏิบัติหน้าที่ที่โรงพักแห่งหนึ่งเดินลงมาจากรถเก๋ง สภาพคล้ายมึนเมาพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วมาโต้เถียงกับชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์และเข้ามาช่วยเหลือคุณป้าที่บาดเจ็บ ว่าตัวเองไม่ได้ชนแค่เฉี่ยวเท่านั้น พอชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่าเห็นชนจนตัวลอยและได้ยินเสียงดังอย่างแรง ก็ทำให้ตำรวจนายดังกล่าวแสดงอาการไม่พอใจ ชาวบ้านจึงใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปจุดเกิดเหตุ สภาพรถ และตำรวจที่ขับรถชนไว้เป็นหลักฐาน แต่ตำรวจนายดังกล่าวก็บอกชาวบ้านห้ามถ่ายทั้งยังข่มขู่ด้วยว่าถ้าใครถ่ายแล้วนำปโพสต์ลงโซเชียล จะฟ้องเอาผิดด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
จากการสอบถามนางสาวเมษยา ชูพลัด อายุ 33 ปี แม่ค้าที่ขายของริมถนนและเห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ขณะกำลังยืนขายของอยู่ก็เห็นรถเก๋งพุ่งชนคุณป้าที่จูงจักรยานริมถนนกับตา เพราะเห็นคุณป้าตัวลอยมากระแทกกระจกหน้ารถเก๋งก่อนจะตกลงไปที่พื้นถนน ตอนนั้นคุณป้าหมดสติไปเลย พอคนขับซึ่งเป็นตำรวจแต่งกายครึ่งท่อนซึ่งน่าจะพึ่งออกเวรหรือไม่ ลงมาจากรถเก๋งลักษณะอาการคล้ายมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง และตอนแรกไม่ยอมรับว่าชนแค่เฉี่ยวนิดเดียว แต่ชาวบ้านเขาเห็นเหตุการณ์หลายคนเขายืนยันว่าชนเต็มแรงไม่ได้เฉี่ยว ทำให้ตำรวจนายดังกล่าวไม่พอใจต่อว่าชาวบ้านแถมขู่ห้ามถ่ายคลิปด้วย ที่สำคัญพอร้อยเวรฯ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุก็เอารถเก๋ง และจักรยานไปไว้ที่โรงพัก ก็ไม่เห็นว่ามีการเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ที่เกิดเหตุเลย จึงเกรงว่าคนเจ็บจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็อยากให้ทำคดีตรงไปตรงมา และให้ตำรวจคู่กรณีมารับผิดชอบคนเจ็บด้วย
จากนั้นผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปสอบถามร้อยเวรฯ เจ้าของคดี ทราบว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาคนขับรถเก๋ง “ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ” ส่วนจะสาหัสหรือไม่ก็ต้องรอดูอาการผู้บาดเจ็บอีกครั้ง ส่วนการเป่าแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่รถยนต์ได้เป่าเรียบร้อยแล้ว พบว่าค่าปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายอยู่ที่ 16 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามจะได้สอบปากคำทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังนายตำรวจที่ขับรถเก๋ง เพื่อสอบถามเกี่ยวกับอุบัติเหตุและเหตุการณ์ที่ปรากฎในคลิป แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้