ข่าวอัพเดทรายวัน

ตำรวจภาค 4 รวบหนุ่มยืนรถพ่อไปขนยาบ้านับล้านเม็ดมูลค่าเกือบ 15 ล้าน

ตร.ภ.4 รวบหนุ่มร้อยเอ็ดยืมรถพ่อพาเพื่อนไปขนยาบ้าที่หนองคายส่งลูกค้าทั่วอีสาน นับล้านเม็ดมูลค่าเกือบ 15 ล้านบาท “ยรรยง”สั่งทุกหน่วยในสังกัดล่าทั้งขบวนการใครเอี่ยวจับหมดพร้อมยึดทรัพย์ตามกฎหมายไม่มีละเว้น

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 ม.ค.2566 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4 และ พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล รอง ผบช.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายพงศ์พล จิตไทย หรือ บอล อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.4 ต.หัวช้าง อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด และนายศุภวรรต ดวงขันธ์ หรือ นิว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 ม.14 ต.หัวช้าง อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลาง ยาบ้ายี่ห้อ Y-1 จำนวน 998,000 เม็ด,รถยนต์กระบะแค๊ป สีบรอนท์ทอง ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ หมายเลขทะเบียน บม-2146 มหาสารคาม,โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน บก.สส.ภ.4 สนธิกำลังร่วมตำรวจภูธร จ.หนองคาย จับกุมตัวได้บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ.หาดคำน้อย ม.3 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย ขณะกำลังลักลอบขนยาบ้าดังกล่าวเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่กลุ่มจังหวัดในภาคอีสานตอนกลาง

พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนจัดเป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ของ จ.ร้อยเอ็ด ที่เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามพฤติกรรมมานาน ซึ่งจากการจับกุมให้การับสารภาพรวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ลักลอบนำยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้านมาจำหน่ายในพื้นที่ โดยในครั้งนี้ได้รับค่าจ้างรายละ 30,000 บาท และค่าเช่ารถค้ายาอีก 20,000 บาท โดยนายพงศ์พล ทำทีขอยืมรถของพ่อที่ จ.ร้อยเอ็ด มาพร้อมกับเพื่อนขับรถจาก จ.ร้อยเอ็ดไปรับยาบ้าที่ จ.หองคาย โดยใช้จุดนัดพบที่ บ.หาดคำน้อย ซึ่งที่ บ.หาดคำน้อยนั้นเป็นท่าเรือของหมู่บ้าน ที่มีบันไดจากตลิ่งลงไปในน้ำ และเป็นจุดต้องสงสัยสำคัญที่ตำรวจเฝ้าติดตามพฤติกรรมของเครือข่ายขบวนการค้ายาบ้าข้ามชาติ จนกระทั่งข้อมูลการข่าวสืบทราบแน่ชัดว่ากลุ่มค้ายาบ้ากลุ่มนี้นัดแนะส่งมอบยาบ้าที่จุดดังกล่าว

“กำลังเจ้าหน้าที่ร่วม บก.สส.ภ.4 และ ภ.จว.หนองคาย จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมและปลอมตัวเป็นชาวบ้านในพื้นที่เพื่อหาข้อมูลที่แน่ชัดและวางกำลังโดยรอ จนกระทั่งเมื่อเวลา 20.00 น.ของคืนวันที่ 13 ม.ค.พบรถยนต์คันดังกล่าวขับเข้ามาและถอยรถจอดริมตลิ่งแม่น้ำโขง และช่วงกลางดึกต่อเนื่องถึงช่วงเช้าของวันที่ 14 ม.ค. มีเรือหาปลาแบบเรือยนต์จากฝั่งลาว 2 ลำขับเข้ามาในลักษณะต้องสงสัย ก่อนที่คนในเรือจะโยนกระสอบปุ๋ยลงมาริมฝั่ง 3 กระสอบ จากนั้นมีกลุ่มบุคคลอาศัยความมืด 3-5 คนเร่งทำการนำถุงดังกล่าวใส่ท้ายรถกระบะ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะพยายามขับรถออกจากริมฝั่ง จังหวะนั้นตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่นายพงศ์พล และ นายศุภวรรต และกลุ่มคนขนของ พยายามอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายพงศ์พล และ นายศุภวรรต ได้จึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวนที่ กก.สส.ภ.จว.หนองคาย และขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งที่ร่วมขบวนการทั้งหมด”

พล.ต.ท.ยรรยง กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายาบ้าลอตนี้จะส่งจำหน่ายที่ จ.ขอนแกน,มหาสารคาม,เลย,ร้อยเอ็ดและหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นการลักลอบนำยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ ตร.ภ.4 เป็นครั้งที่ 2 ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง โดยรับค่าจ้างขนยาครั้งละ 30,000 บาท ค่ารถ 20,000 บาท ซึ่งทั้งหมดตำรวจไม่ปักใจเชื่อและได้สั่งการให้ทุกหน่วยใน ตร.ภ.4 สืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เข้าร่วมขบวนการและทำการยึดทรัพย์ทั้งหมดตามที่กฎหมายกำหนด

อย่างไรก็ตามหากยาบ้าลอตดังกล่าวส่งจำหน่ายได้จะมีมูลค่าราคาต้นทุนอยู่ที่เม็ดละ 15 บาท ลอตนี้เกือบ 15 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมต่อไป อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสาภาพตลอดทุกข้อกล่าวหาและซัดทอดไปยังผู้ร่วมขบวนการ จึงตั้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันกับพวกที่หลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภทที่1 ยาบ้าไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน พร้อมทั้งควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดนำส่งพนังกานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป