ทายาท และสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์กลุ่มสตรีอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ปะทะคารมเดือดกับคณะกรรมการฯ กลางหอประชุมอำเภอขณะนำเอกสารชี้แจง ปมการเงินยักยอกค่าทำศพ เบี้ยวเงินคนตาย 40 ศพ ขีดเส้นตาย 31 มี.ค.ไม่จ่ายนำหลักฐานแจ้งความเอาผิด ด้านนายกสมาคมฯ ยันกรรมการไม่รู้เห็น พร้อมยกมือไหว้ขอโทษสมาชิกและรับปากพร้อมรับผิดชอบ
18 ม.ค.65 ทายาทและสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์กลุ่มสตรีอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ เกือบ 1,000 คน ได้มารวมตัวกันที่หอประชุมหลังที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย เพื่อรับฟังทางนายกสมาคมฯ พร้อมกรรมการ และเจ้าหน้าที่การเงิน ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีที่ทางสมาคมฯ เบี้ยวเงินค่าจัดการศพสมาชิกที่เสียชีวิตจำนวน 40 ราย เฉลี่ยรายละ 85,000 บาท มานานหลายเดือน สร้างความเดือดร้อนให้กับทายาทของสมาชิกที่เสียชีวิต เพราะต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาสำรองเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ พอไปทวงถามทางสมาคมฯ ก็จะอ้างว่าเก็บเงินสงเคราะห์ศพล่วงหน้าจากสมาชิกได้ยังไม่ครบ ทำให้ทางสมาคมฯ ขาดสภาพคล่องไม่มีเงินสำรองที่จะจ่ายให้สมาชิกที่เสียชีวิต จึงได้มีการรวมตัวประท้วงเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดยการชี้แจงในวันนี้ได้มีนายรัฐศาสตร์ พลแสน ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอพลับพลาชัย และพัฒนาการอำเภอ มาร่วมรับฟังการชี้แจงของกรรมการ และความต้องการของชาวบ้านด้วย แต่ระหว่างที่กรรมการและเจ้าหน้าที่นำเอกสารออกมาชี้แจงระบุว่า สาเหตุที่จ่ายเงินค่าจัดการศพให้กับสมาชิกที่เสียชีวิตยังไม่ครบทั้ง 40 ศพนั้น เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่การเงินที่ลาออกไปแล้วยักยอกเงินไปกว่า 8 แสนบาท และมีสมาชิกหลายคนยังไม่ชำระค่าจัดการศพล่วงหน้ารายปี ทำให้ขาดสภาพคล่อง ก็สร้างความไม่พอใจให้กับทายาท และสมาชิก ที่มาร่วมรับฟังการชี้แจง บางช่วงได้มีการปะทะคารมกับกรรมการอย่างดุเดือด บางคนถึงกับเดินออกจากหอประชุมเพราะไม่พอใจกับคำชี้แจง และคาใจว่าสมาชิกกว่า 4,000 คน แล้วเงินส่วนที่จ่ายไปแล้วหายไปไหน พร้อมยืนกรานตรงกันว่าไม่มีความเชื่อมั่นทางสมาคมฯ หากไม่สามารถนำเงินมาจ่ายให้กับสมาชิกที่เสียชีวิตได้ภายในสิ้นเดือน มี.ค.66 นี้ ก็จะนำหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางสมาคมฐานยักยอกเงิน และหากไม่สามารถดำเนินการต่อได้สมาชิกก็อยากได้เงินคืน
นายจีรชัย ขันประโคน และนางมีนา เทศสกุลวงศ์ ทายาทสมาชิกฯ บอกว่า การชี้แจงของทางสมาคมฯ วันนี้ไม่มีความชัดเจนโดยเฉพาะเอกสารที่นำมาประกอบการชี้แจง ก็ไม่มีรายละเอียดแจงให้สมาชิกทราบ บอกแค่ว่ามีเจ้าหน้าที่การเงินยักยอกไป 7 แสนบาทและขาดสภาพคล่องเพราะสมาชิกบางคนไม่จ่ายเงินสงเคราะห์ศพล่วงหน้ารายปี จึงอยากทราบว่าแล้วที่สมาชิกกว่า 4 พันรายที่จ่ายเงินสงเคราะห์ศพล่วงหน้ามาตลอดเฉลี่ยปีละหลายล้านบาทไม่เคยค้างแล้วเงินหายไปไหน จึงเชื่อว่าน่าจะมีการบริหารที่ไม่โปร่งใส จากกรณีดังกล่าวทำให้สมาชิกขาดความเชื่อมั่นสมาคมฯ ไม่กล้าจะส่งเงินสงเคราะห์ล่วงหน้าต่อ จนกว่าทางสมาคมจะจ่ายเงินค่าจัดการศพให้กับสมาชิกที่เสียชีวิต และให้ความมั่นใจกับสมาชิกได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวอีก แต่หากไม่สามารถจ่ายเงินสมาชิกที่เสียชีวิตไปแล้วได้ก็ต้องแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านนางจันทร์แรม สวายประโคน นายกสมาคมฯ ระบุว่า ข้อมูลปี 2565 สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์กลุ่มสตรีอำเภอพลับพลาชัยมีสมาชิก 4,750 คน สมาชิกค้างชำระ 416 คน สมาชิกถูกตัดสิทธิ์ 260 คน รายรับ 10,213,480 บาท เรียกเก็บเงินเพิ่ม 600 บาท 485,400 บาท รวม 10,698,880 บาท รายจ่าย(สมาชิกที่เสียชีวิต) 12,025,890 บาท สรุปผลประกอบการประจำปี -1,327,010 บาท ที่ผ่านไม่เคยมีปัญหาอะไร ส่วนกรณีที่สมาชิกคาใจเรื่องค้างจ่ายเงินค่าจัดการศพสมาชิกที่เสียชีวิต 40 ศพนั้น ขอชี้แจงว่าทางสมาชิกได้ทยอยจ่ายไปแล้วหลายรายแต่อาจจะยังไม่ครบ รวมยอดค้างตอนนี้ 2,148,550 บาท เนื่องจากยังมีสมาชิกที่ยังค้างชำระเงินสงเคราะห์ศพล่วงหน้ากว่า 400 ราย และเจ้าหน้าที่การเงินก็มีการยักยอกเงินไปใช้ส่วนตัวอีกกว่า 7 แสนบาท แต่ยืนยันว่าตนเองและกรรมการไม่ได้รู้เห็นกับการยักยอกเงิน แต่ก็จะเร่งรัดนำเงินมาจ่ายให้สมาชิกที่เสียชีวิตให้ได้โดยเร็ว ทางสมาคมพร้อมรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้ยกมือไหว้ขอโทษสมาชิก ที่เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
ขณะที่นายรัฐศาสตร์ พลแสน ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอพลับพลาชัย กล่าวว่า หลังจากทางกรรมการฯได้มาชี้แจงข้อเท็จจริง ให้สมาชิกและทายาทรับทราบเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทางสมาคมก็รับปากจะเร่งติดตามให้ จนท.การเงินที่ยักยอกเงินไปนำเงินมาคืน และเร่งรัดให้สมาชิกที่ค้างจ่ายค่าจัดการศพล่วงหน้ามาชำระ เพื่อจะได้นำไปจ่ายให้กับสมาชิกที่เสียชีวิตเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับทายาท ทั้งเป็นการสร้างควาเชื่อมั่นให้กับสมาชิก สมาคมฯ จะได้เดินหน้าต่อไปได้