สุดสลดอดีต ส.อบต.ที่บุรีรัมย์ ขับกระบะจะไปตัดไม้ในทุ่งนาหักเลี้ยวด้านหน้าตกคันนา ใช้แม่แรงค้ำหยันใต้ท้องหวังจะเร่งเครื่องถอยหลัง เกิดพลาดแม่แรงล้มรถไหลทับกลางหน้าอกไม่มีคนเห็นเสียชีวิตคาล้อรถ พี่สาวนั่งร้องไห้ข้างศพแทบขาดใจ ผญบ.เผยหากเรียกคนมาช่วยไม่ทำลำพังอาจไม่เกิดเหตุสลด
เมื่อเวลา 08.30 น. ( 21 ม.ค.66) พ.ต.ท.อดิชาติ มีสา รอง ผกก.(สอยสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกรถทับเสียชีวิต ที่บ้านหนองข่า ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงได้ประสานแพทย์เวรฯ รพ.บุรีรัมย์ และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบร่างนายเวหา รักษา อายุ 55 ปี อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) ม.1 ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ นอนหงายเสียชีวิตอยู่ใต้ล้อรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สตาร์ด้า สีบอร์น ทะเบียน กข-9447 บุรีรัมย์ โดยล้อหน้าข้างขวาทับกลางหน้าอก และพบแม่แรงอยู่บริเวณใต้ท้องรถด้วย โดยนางบุญเลี้ยง เรืองรัมย์ พี่สาวผู้เสียชีวิตนั่งข้างศพไร้วิญญาณของน้องชายร้องไห้ปานจะขาดใจ
ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นพบเพียงรอยล้อรถยนต์อยู่กลางหน้าอก แต่ไม่พบร่องรอยบาดแผลอื่นแต่อย่างใด โดยชาวบ้านที่มาพบศพคนแรกให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าขับรถผ่านมาเห็น นายเวหา นอนหงายถูกล้อรถทับกลางหน้าอก พอเข้าไปดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้วจึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้าน เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
สอบถามนายจิรศักดิ์ ทรงรัมย์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บอกว่า ก่อนหน้านี้นายเวหา เคยเป็นอดีต ส.อบต.อยู่หมู่ 1 แต่ปัจจุบันได้ย้ายมาอยู่กับครอบครัวที่บ้านหนองข่า หมู่ 8 หมู่บ้านที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบนายเวหา ถูกรถทับเสียชีวิตก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ จากการสอบถามครอบครัวทราบว่าตอนเช้านายเวหา ได้ขับรถออกไปหาตัดไม้ตามทุ่งนา ซึ่งก็เป็นปกติอยู่แล้ว แต่คาดว่าวันนี้น่าจะหักพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวเข้าทุ่งนา แต่เกิดเสียหลักด้านหน้ารถตกลงไปในทุ่งนา นายเวหา ซึ่งอยู่คนเดียวน่าจะใช้แม่แรงที่ตกรถมาด้วย ค้ำหยันใต้ท้องรถหวังจะเร่งเครื่องให้รถถอยหลังขึ้นคืน แต่สันนิษฐานว่าช่วงที่เอาแม่แรงไปค้ำหยันใต้ท้อง แม่แรงอาจจะล้มแล้วทำให้รถซึ่งจอดอยู่ในลักษณะลาดชัน ไหลทับกลางหน้านายเวหา แต่ตอนนั้นอยู่คนเดียวไม่มีใครเห็นจึงไม่มีคนมาช่วย ทำให้เสียชีวิตในลักษณะล้อรถทับกลางหน้าอก จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็อยกจะเตือนเป็นอุทาหรณ์ว่าหากใครเกิดปัญหารถขัดข้องหรือเกิดอุบัติเหตุอะไรก็แล้วแต่ ควรจะเรียกคนอื่นมาช่วยไม่ควรจะทำเพียงคนเดียว เพราะหากเกิดพลาดมาจะได้มีคนช่วยเหลือทัน
ซึ่งญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงได้มอบร่างให้ครอบครัวนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป