วันที่ 22 ม.ค.66 ที่บริเวณลานหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 / สส.นครพนม นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รอง ผวจ.นครพนม นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายก อบจ.นครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ รวมถึงประชาชนชาวไทย ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม เชื้อสายจีน ได้พร้อมใจร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตรเพื่อเป็นสิริมงคลเนื่องในวันตรุษจีน เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของชาวไทยเชื้อชาติจีน รวมถึงชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม แสดงออกถึงความสัมพันธ์อันดีจากอดีตสู่ปัจจุบัน เนื่องจาก จ.นครพนม ถือเป็นพื้นที่ชายแดนสำคัญที่มีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านมายาวนาน รวมถึงชาวไทยเชื้อสายจีน เวียดนาม ลาว เคยอพยพมาอาศัยในยุคสงครามอินโดจีน จึงมีความสัมพันธ์อันดีมาต่อเนื่อง และมีบางส่วนได้อพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในพื้นที่ จ.นครพนม และสร้างฐานที่อยู่มาถึงปัจจุบัน ทำให้ จ.นครพนม เป็นจังหวัดที่มีหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ ส่งผลดีต่อความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน และการส่งเสริมการท่องเที่ยว เสริมสิริมงคล และอุทิศส่วนกุศลไปยังบรรพบุรุษที่ล่วงลับ เนื่องในวันตรุษจีน ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำสุดถึง 12 องศาเซลเซียส เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีสำคัญ รวมถึงเป็นการรำลึกถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ เนื่องจาก จ.นครพนมเป็นจังหวัดชายแดน ที่มีประชาชนหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาอาศัย มีทั้งประชาชนชาวไทย ชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ที่จะเป็นการสร้างความรักสมัครสมานสามัคคี อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
โดยในวันตรุษจีนทุกปี ทุกเชื้อชาติ จะได้ร่วมกันจัดกิจกรรมทำบุญขึ้น ณ บริเวณ หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ถือเป็นสถานที่สำคัญ ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2503 ภายหลังเกิดสงครามล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส ทำให้ชาวเวียดนามลี้ภัยเข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.นครพนม จนกระทั่งเวียดนามชนะสงคราม จึงมีการสร้างหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ไว้บริเวณถนนสุนทรวิจิตร ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลนครพนม เป็นการตอบแทนมิตรไมตรีอันดีระหว่างไทยกับเวียดนาม ในช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปี จึงใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรม เพื่อรำลึกความสัมพันธ์อันดี ระหว่าง 3 เชื้อชาติ ทั้งชาวไทย ชาวไทยเชื้อสายจีน รวมถึงชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน อยู่ด้วยกันด้วยความรักสามัคคี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมจัดให้มีการแสดงเอกลักษณ์ ของชาวไทยเชื้อสายจีน รวมถึงชาวไทยเชื้อสายเวียดนามอีกด้วย