บุรีรัมย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ กำชับครูดูแลเด็กเข้มงวดมากขึ้นควบคู่เพิ่มองค์ความรู้ผลข้างเคียงกัญชา-น้ำกระท่อมหลังพบนักเรียนแอบเสพ
จากกรณีที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และครูฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณป่าหลังโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ หลังได้รับแจ้งว่ามีเด็กนักเรียนหนีเรียนคาดว่าน่าจะแอบไปมั่วสุมทำสิ่งผิดกฎหมายและผิดกฎระเบียบของทางโรงเรียน ซึ่งจากการตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ 3 คันจอดซุกซ่อนไว้ริมชายป่าหลังโรงเรียน เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในป่าก็พบนักเรียนชาย 3 คน ชั้น ม.2 ม. 3 และ ม.4 กำลังมั่วสุมสูบกัญชาและดื่มน้ำต้มใบกระท่อมกันอยู่ภายในป่า เมื่อตรวจสอบภายในกระเป๋าสะพาย ยังพบอุปกรณ์สำหรับเสพสารเสพติดอีกหลายอย่าง และมีมีดปลายแหลมด้วย จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งได้นำตัวนักเรียนชายทั้ง 3 คนส่งไปทำบันทึกประวัติที่โรงพัก ก่อนจะประสานครู และผู้ปกครองมาเซ็นรับทราบและรับตัวกลับ ล่าสุดวันนี้ (31 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนที่มัธยมที่เด็กทั้ง 3 คนเรียนอยู่ พบว่าวันนี้นักเรียนทั้ง 3 คน ได้มาเรียนตามปกติหลังจากที่ได้มีการทำบันทึกประวัติเกี่ยวกับพฤติกรรม และว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว ด้านผู้บริหารโรงเรียน ก็ให้ข้อมูลว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นก็ได้กำชับให้คณะครู เพิ่มความเข้มงวดในการกวดขันตรวจตราเด็กนักเรียนให้มากขึ้น ทั้งการตรวจกระเป๋านักเรียนป้องกันแอบซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมายหรือของต้องห้ามเข้ามาในโรงเรียน ตรวจเข้มเรื่องเด็กหนีเรียนไปอยู่ในสถานที่สุ่มเสี่ยง พร้อมทั้งขอความร่วมมือพ่อแม่ผู้ปกครอง ให้ช่วยดูแลสอดส่องบุตรหลานอย่างใกล้ชิดในอีกทางหนึ่งด้วย เพราะเมื่ออยู่นอกรั้วโรงเรียนทางโรงเรียนอาจจะไม่สามารถไปควบคุมดูแลได้ เนื่องจากทุกวันนี้ทั้งกัญชา และใบกระท่อมก็จะเข้าถึงง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะจากการสอบถามเด็กก็บอกว่ากัญชาก็มีปลูกอยู่ตามบ้านเรือน ส่วนใบกระท่อมก็มีวางขายตามริมถนนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นนอกจากจะเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลป้องกันแล้ว ก็กำชับให้ครูสอดแทรกองค์ความเกี่ยวกับผลดี ผลเสียและผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น ในการใช้กัญชา หรือกินพืชกระท่อม เพื่อให้เด็กได้เข้าใจอย่างถูกต้อง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบนถนนสายหลักเชื่อมต่อระหว่างนางรอง – เฉลิมพระเกียรติ ก็พบมีการนำใบกระท่อมมาวางขายตามเพิงริมถนน มีการติดป้ายขายชัดเจน และมีประชาชนจอดรถแวะซื้ออย่างต่อเนื่อง จากการสอบถามป้าพิมพ์ อายุ 63 ปี แม่ค้า บอกว่า ใบกระท่อมที่นำมาขายรับมาจากทางภาคใต้แล้วเอามาแบ่งขายในราคาถุงละ 20-50 บาท ลูกค้าที่มาซื้อส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัยทำงานบอกว่าจะซื้อไปเคี้ยวกินตอนทำงาน ส่วนผู้สูงอายุก็บอกว่าซื้อไปกินแล้วช่วยลดอาการเบาะหวาน แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นมีเด็ก เยาวชนมาซื้อ แต่ส่วนตัวก็รู้อยู่แล้วว่ากฎหมายไม่อนุญาตให้ขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี