ภรรยาพนักงานไฟฟ้าสาขาบ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรม สามีป่วยลิ้นหัวใจรั่ว เส้นเลือดสมองตีบ น้ำท่วมปวดอาการทรุดหนัก แต่ใช้สิทธิต้นสังกัดรักษาไม่ได้เพราะถูกจับดำเนินคดีฐานยักยอกเงิน แต่ได้ชดใช้คืนตามคำพิพากษาศาลแล้ว วอนเห็นใจหากใช้สิทธิต้นสังกัดไม่ได้ก็ให้พิจารณาพ้นสภาพพนักงาน เพื่อใช้สิทธิรักษาฟรีในฐานะ ปชช.คนไทย หากไม่ได้รักษาต้องนอนรอวันตาย
วันที่ 4 ก.พ.66 น.ส.นิชาภา ประสีระเตสังข์ อายุ 49 ปี ชาว อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ภรรยาของนายพีระพงศ์ พงศ์สุวรรณ พนักงานการไฟฟ้าสาขาบ้านใหม่ไชยพจน์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังจากสามีล้มป่วยด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว เส้นเลือดสมองตีบ และน้ำท่วมปวด ล่าสุดอาการทรุดหนักเพราะไม่มีเงินรักษาต่อเนื่อง และไม่สามารถใช้สิทธิต้นสังกัดรักษาได้ เพราะเมื่อปี 2564 สามีถูกจับดำเนินคดีฐานยักยอกเงินค่ามิเตอร์ไฟฟ้าจากผู้ขอใช้ไฟทำให้เกิดความเสียหายแก่การไฟฟ้า ซึ่งช่วงที่ประกันตันสู้คดีสามีก็ไปอาศัยอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เพราะตนขายอาหารตามสั่งอยู่ที่นั่น
กระทั่งเมื่อเดือนกันยายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ได้ตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหายคืนองค์กรจำนวน 192,836 บาท และค่าปรับพินัยอีก 180,000 บาท ให้รอลงอาญา 5 ปี คุมประพฤติ 3 ปี บำเพ็ญประโยชน์อีก 108 ชั่วโมง ซึ่งสามีก็ได้หาเงินไปจ่ายชดใช้คืนตามคำพิพากษาศาลแล้ว แต่ระหว่างรอลงอาญาและคุมประพฤติสามีเกิดล้มป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว และเส้นเลือดสมองตีบ ก็เข้ารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ แต่ไม่สามารถใช้สิทธิต้นสังกัดในการรักษาได้ เนื่องจากตกเป็นจำเลยคดียักยอกเงิน ตนจึงต้องนำเงินที่ได้จากการขายอาหารตามสั่ง และหยิบยืมคนรู้จักจ่ายค่ารักษาเอง แต่พอรักษาไปเรื่อยเงินก็เริ่มหมดแถมยังเป็นหนี้อีก ขณะนี้ค้างค่ารักษาที่ รพ.นครพิงค์เกือบ 6 หมื่นก็เซ็นรับสภาพหนี้เอาไว้ แต่ล่าสุดหมอนัดไปสวนหัวใจและฉีดสีเพื่อรักษาให้ต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถไปตามนัดได้เพราะยังค้างค่ารักษาเดิมอยู่ ล่าสุดอาการสามีทรุดหนักลงอีกแต่ตนไม่มีเงินที่จะพาสามีไปรักษา จึงได้พาสามีกลับมาบ้านที่ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือสามีให้ได้รับการรักษา แต่จากการไปสอบถามทางต้นสังกัดในพื้นที่ก็ได้รับคำตอบว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างเสนอเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอน
น.ส.นิชาภา ยังบอกอีกว่า ตนยอมรับว่าสามีเคยกระทำความผิด แต่สามีก็ได้ชดใช้กับที่สิ่งกระทำไปแล้ว แต่เมื่อสามีป่วยหนักหากไม่สามารถใช้สิทธิของต้นสังกัดได้เพราะเคยมีประวัติกระทำผิด ก็ควรจะพิจารณาให้สามีพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานการไฟฟ้า เพื่อที่สามีจะได้ใช้สิทธิการรักษาฟรีในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง จึงอยากวิงวอนให้ทางต้นสังกัดได้เร่งพิจารณาอย่างหนึ่งอย่างใด หากไม่สามารถใช้สิทธิในฐานะพนักงานได้ ก็ควรให้พ้นสภาพจากพนักงาน เพื่อสามีจะได้ใช้สิทธิเหมือนประชาชนทั่วไป ก็อยากให้เห็นใจในฐานะมนุษย์คนหนึ่งด้วย เพราะแม้แต่ผู้ต้องขังในเรือนจำเวลาเจ็บป่วยยังได้รับการรักษา ซึ่งสามีตนทำผิดก็ชดใช้กับสิ่งที่ทำไปแล้วก็ควรได้รับโอกาสบ้าง ทุกวันนี้เหมือนให้นอนรอวันตายเพราะไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวเองก็ไม่ได้ค้าขายเพราะมัวแต่มาเดินเรื่องสามี