นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมและแขวงคำม่วน สปป.ลาว เป็นบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเสมอมา และด้วยสถานการณ์โควิดทำให้ทุกฝ่ายได้รับผลกระทบ ประกอบในช่วงนี้คณะผู้บริหารจังหวัดนครพนมมีการปรับเปลี่ยนใหม่หลายหน่วยงาน ดังนั้นเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์อันเก่าก่อน ทำให้ทุกคนได้รู้จักกันและร่วมกันพัฒนาประเทศเพื่อสร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชน จึงได้นำคณะผู้บริหารของจังหวัดนครพนม เดินทางไปเชื่อมสัมพันธไมตรีและหารือแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยวร่วมถึงประเด็นอื่น ๆ กับท่านวันไซ พองสะหวัน เจ้าแขวงคำม่วน และคณะ พร้อมกับนายอธิปัตย์ โรจนไพบูรย์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขตด้วย
โดยในการหารือวันนี้ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นการเดินทางระหว่างประเทศ โดยคาดหวังที่จะให้เกิดการค้าการลงทุนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ได้มีการหารือเพื่อวางแผนให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้ 3 ประเทศในวันเดียว คือ จ.นครพนม แขวงคำม่วน สปป.ลาว และเมืองฮาติงห์ เวียดนาม สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากทานอาหารในพื้นที่ และแผนเส้นทางการท่องเที่ยวสายศรัทธามาครั้งเดียวเที่ยว 2 ประเทศ ที่จะเป็นการส่งต่อแขกให้ซึ่งกันและกัน โดยนำพระธาตุสำคัญคือพระธาตุพนมและพระธาตุศรีโคดตะบอง มาเป็นตัวเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว ซึ่งเบื้องต้นจังหวัดนครพนมมีแผนกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ตลอดทั้งปีที่จะมาสร้างความน่าสนใจให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี สถานที่สำคัญ วิถีชีวิตคนลุ่มน้ำโขง ซึ่งจะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่มากยิ่งขึ้น และจะส่งผลดีต่อประชาชนทั้งสองประเทศเมื่อเชื่อมโยงเส้นทางสำเร็จ โดยปัจจุบันทั้งสองฝ่ายมีการประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทางผ่านด่านศุลกากรเป็นอย่างดี มีการพัฒนาระบบต่างๆ เพื่อรองรับการให้บริการที่มีความรวดเร็ว แต่เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนมีความมั่นใจว่าจะได้รับการบริการเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ทั้งสองฝ่ายจะมีการหารือถึงรายละเอียดแบบลงลึกร่วมกันอีกครั้ง ก่อนจะมีการพิจารณาถึงความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ที่อยู่บนบรรทัดฐานของระเบียบและกฎมายทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ทั้ง 2 คณะ ยังมีการหารือเกี่ยวกับความมั่นคงริมฝั่งแม่น้ำโขงและความมั่นคงภายในทั้ง 2 พื้นที่ ซึ่งต่างก็ยินดีให้ความร่วมมือกันในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้เกิดกลไกการดำเนินงานที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความต่อเนื่อง โดยยังมีการวางแผนเชื่อมสัมพันธ์ด้านอื่นๆ ระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติเพื่อสร้างความคุ้นเคยและการประสานความร่วมมือในการทำหน้าที่ เช่น การทำกิจกรรมเล่นกีฬาร่วมกัน การปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติร่วมกัน รวมถึงมีการหารือเกี่ยวกับแผนพัฒนาด้านสาธารณสุข การส่งเสริมด้านการเกษตร การร่วมกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และด้านอื่นๆ เพื่อทำให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าปัจจุบันด้วย