หนุ่มวัย 29 น้อยใจแม่เมียปีนเสาไฟฟ้าแรงสูงขึ้นไปนั่งอยู่นานหลายชั่วโมง ตำรวจเข้าเกลี้ยกล่อมอยู่นานไม่เป็นผล ซื้อเบียร์ 1ลังมาล่อเอาลูกชายวัย 3 ขวบพูดเกลี้ยกล่อมก็ไม่สนแถมนั่งสูบบุหรี่สบายใจ พร้อมกับตะโกนว่าอยากติดคุกเพราะอยู่ไปก็ไม่มีความหมาย
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 12 ก.พ.66 พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุจากศุนย์วิทยุ191 ว่ามีเหตุชายคลุ้มคลั่ง ปีนเสาไฟฟ้าแรงสูง ภายในซอยเหล่านาดี 12 จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางไปตรวจสอบเหตุดังกล่าว โดย นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผวจ.ขอนแก่น, นายประจวบ รักษ์แพทย์ นายอำเภอเมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น,พ.ต.ท.เมธี ศรีวันนา รอง ผกก.ป.ฯ,พ.ต.ท.วิษณุ โคตรพจน์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น,ร.ต.อ.อนุภาพ ทุมมณี รอง สวป.สภ.เมืองขอนแก่น กำลังสายตรวจ และ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครขอนแก่น ร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าควบคุมสถานการณ์
เมื่อไปถึงพบชายตามที่ได้รับแจ้ง มีรูปร่างผอมสูง สวมกางเกงขาสามส่วนไม่สวมเสื้อปีนขึ้นไปบนเสาสูงประมาณ 10 เมตร ต่อมาทราบชื่อคือ นายพิษณุ สาราคำ อายุ 29 ปี ที่อยู่ 99/175 เหล่านาดี 12 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ซึ่งปีนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าแรงสูง นั่งอยู่บนนั้นนานนับชั่วโมงพยายามพูดเกลี้ยกล่อมแล้วแต่ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่จึงพยายามใช้เครื่องกระจายเสียงพูดเกลี้ยกล่อมแต่ไม่เป็นผล นอกจากนี้ยังมี แม่ของนายพิษณุ พยายามพูดเกลี้ยกล่อมแต่ก็ถูกไล่บอกให้กลับไปจะลงเองหลังจากนั้นก็นั่งเหม่อลอย
ร.ต.ต.ไวพจน์ แพงมา รอง สวป.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งว่ามีคนปีนเสาไฟฟ้าขึ้นไปอยู่นานกว่า 1 ชม.เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ใช้เครื่องกระจายเสียงตะโกนขึ้นไปพูดคุยกับนายพิษณุ แต่ไม่เป็นผลจึงประสานขอรถกระเช้าและเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาเตรียมพร้อมจากนั้นได้พูดคุยกับภรรยาทราบว่านายพิษณุ มีอาชีพรับจ้างก่อนหน้านั้นได้ไปลักขโมยสิ่งของที่ห้องเช่าได้เงินมา 150 บาทนำเงินไปซื้อพิซซ่าให้ลูกชายรับประทานจนกระทั่งมารดาทราบเรื่อง จึงถูกต่อว่า น่าจะน้อยใจ
ขณะที่ตำรวจพยายามหลอกล่อด้วยการซื้อเบียร์มาให้หนึ่งลังแต่นายพิษณุก็ไม่ตอบสนองใดใดขณะที่ภรรยา และลูกชายวัย 3 ขวบพยายามตะโกนบอกให้นายพิษณุลงมาพูดคุยกันแต่ไม่เป็นผลตะโกนมาเพียงว่าอยากติดคุก ภรรยาได้ตะโกนต่อว่าแต่นายพิษณุ ตะโกนลงมาว่าตนเองเป็นตัวปัญหา พร้อมตะโกนต่อว่า อยากเข้าคุกถ้าลงไปก็ขอเข้าไปอยู่ในคุกเพราะอยู่ไปก็เท่านั้นไม่มีความหมายกับใคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้พยายามเจรจาเกลี่ยกล่อมตามแผนเผชิญเหตุ พร้อมทั้งได้ประสานญาติให้ร่วมเจรจาเกลี้ยกล่อมเพื่อขอให้นายพิษณุ ลงมา และได้ประสานส่วนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น กู้ชีพ กู้ภัย รถพยาบาล เบาะลม เจ้าหน้าที่ ปภ. เทศบาลนครขอนแก่น รถกระเช้า โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง การเจรจาเป็นผล
ด้านเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ทำการตัดไฟเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ขึ้นรถกระเช้าพร้อมนำน้ำดื่ม บุหรี่และกุญแจมือตามที่นายพิษณุ ร้องขอขึ้นไปให้ พูดเกลี้ยกล่อมสักพัก จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.30 น. นายพิษณุ ยอมที่จะลงจากเสาไฟฟ้าแรงสูง แต่ต้องให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขึ้นไปรับตัวลงมา เจ้าหน้าตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ปภ. จึงได้นำรถกระเช้า ขึ้นไปรับตัว นายพิษณุ ลงมา ได้สำเร็จ เมื่อลงมาถึงข้างล่าง นายพิษณุ บอกว่า ตนตัดสินใจดีแล้วที่อยากเข้าคุก เพราะถ้าอยู่ข้างนอกสังคมจะเดือดร้อน เพราะรู้ตัวดีว่าไม่ใช่คนดี บำบัดหรือไม่ ไม่สำคัญแต่อยากติดคุกแบบไม่มีกำหนด อยากอยู่แบบไม่มีครอบครัวอยู่กับคนอื่นดีกว่าอยู่กับคนในครอบครัวผมไม่อยากทำงาน อยากเข้าคุกไม่อยากอยู่ข้างนอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปสงบสติอารมณ์และพูดคุยสอบถามปัญหาเชิงลึกและหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป