วันที่ 14 ก.พ.66 ที่สโมสรสัญญาบัตร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม น.อ.ณฐพัฒน์ ซื่อมงคล รอง ผบ.นรข. น.อ.กษิติ กลิ่นศรีสุข ผบ.นรข.เขตนครพนม ร่วมแถลงว่า พล.ร.ต.สมาน ขันธพงษ์ ผบ.นรข. สั่งการกำชับให้ บก.นรข.เขตฯ และสถานีเรือต่าง ๆ เข้มงวดกวดขัน การกระทำผิดกฎหมายต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ และเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2566 น.อ.กษิดิ กลิ่นศรีสุข ผบ.นรข.เขตนครพนม ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านโคกกว้าง ตำบลโคกกว้าง อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการข่าว นรข.เขตนครพนม ชุ่มเฝ้าตรวจบริเวณดังกล่าว จนกระทั่ง เวลา 19.00 น. ชุดชุ่มเฝ้าตรวจ สังเกตเห็นเรือกีบแล่นมาจากบริเวณกลางแม่น้ำโขง มุ่งหน้าเข้าเทียบท่าบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ห่างจากจุดที่ชุดชุ่มเฝ้าตรวจฯ ประมาณ 800 เมตร จึงทำการปีดระยะเพื่อเข้าไปใกล้ เรือลำดังกล่าว แต่เนื่องจากภูมิประเทศเป็นอุปสรรค จึงได้นำยานพาหนะอ้อมไปบนถนน จากนั้นจึงเห็นบุคคลต้องสงสัย จำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์พร้อมวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ ด้านหน้ารถจักรยานยนต์ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร ชุดซุ่มเฝ้าตรวจฯ จึงเพิ่มความเร็ว เพื่อเข้าตรวจสอบ แต่บุคคลต้องสงสัยได้สังเกตเห็นพาหนะของชุดซุ่มเฝ้าตรวจฯ ขับปิดระยะเข้ามาด้วยความเร็ว จึงได้เพิ่มความเร็วเพื่อหลบหนี และจากการสังเกตุได้เห็นบุคคลต้องสงสัยทิ้งวัตถุต้องสงสัยไว้ข้างทาง บริเวณป่ากล้วยริมถนนในพื้นที่ บ้านโคกกว้าง ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีโดยอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ ชุดชุ่มเฝ้าตรวจฯ จึงทำการตรวจสอบวัตถุที่บุคคลต้องสงสัยทิ้งไว้ พบ กระสอบพลาสติก สีดำ พันด้วยเทปกาวใสอย่างแน่นหนา เมื่อชุดชุ่มเฝ้าตรวจแกะกระสอบดังกล่าว พบกระสอบปุ๋ย สีขาว และเมื่อเปิดกระสอบปุ๋ย สีขาว พบ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า ห่อหุ้มด้วยกระดาษไขพันด้วยเทปกาวใสจำนวนมาก จึงทำการตรวจยึดและนำของกลางดังกล่าวมาที่ บก.นรข. เขตนครพนม เพื่อตรวจสอบและตรวจนับโดยละเอียด พบเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ห่อหุ้มด้วยกระดาษไขพันด้วยเทปกาวใส จำนวน 50 ก้อน ก้อนละประมาณ 6,000 เม็ด รวมยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ประมาณ 300,000 เม็ด จากนั้นจึงทำบันทึกการตรวจยึดพร้อมนำ ของกลางทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน .สภ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
น.อ.ณฐพัฒน์ ซื่อมงคล รอง ผบ.นรข. เปิดเผยว่า การตรวจยึดในครั้งนี้ตามนโยบาย ของ ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ได้มอบไว้ให้ หน่วยเฉพาะกิจของกองทัพเรือ ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน การตรวจยึดจากประเทศเพื่อนบ้าน มีจำนวนน้อยลง เนื่องจากว่า ประเทศเพื่อนบ้านมีการเข้มงวดกวดขันในการปราบปรามยาเสพติดมากขึ้น กองทัพเรือต้องดำรงความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานด้านการข่าว เพื่อสร้างความตระหนักรู้ของสถานการณ์ และมีความได้เปรียบในการปฏิบัติภารกิจ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นหน่วยเฉพาะกิจกองทัพเรื่อที่ มีพื้นที่รับผิดชอบตลอดลำแม่น้ำโขง ตั้งแต่ พื้นที่ อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย จนถึง อ.โขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ระยะทาง 928 กิโลเมตร มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายตามลำแม่น้ำโขง โดยเฉพาะด้านยาเสพติด