ข่าวอัพเดทรายวัน

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงติดตามงาน 2 โรงเรียน ตชด. ในพื้นที่จังหวัดนครพนม ผ่านระบบออนไลน์

วันที่ 3 มีนาคม 2566 เวลา 9.15 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่จังหวัดนครพนม ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 2 โรงเรียนโดยมีพล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน คณะครู นักเรียน ร่วมรับเสด็จและถวายรายงานผลการดำเนินงานโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านนาสามัคคี อำเภอนาทม ที่ทำการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งสิ้น 35 คน ครูตำรวจตระเวนชายแดน 7 นาย ครูผู้ดูแลเด็ก 1 คน ครู สพฐ.ตามโครงการแก้ไขปัญหาครูวิกฤติ 1 คน มีดาบตำรวจหญิง ทิพเยาว์ พรมดี ทำหน้าที่ครูใหญ่ จากนั้นในเวลา 13.30 น. ทรงติดตามผลการดำเนินงานโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชูทิศวิทยา อำเภอท่าอุเทน ที่เปิดทำการเรียนการสอน ตั้งแต่ชั้นก่อนประถมศึกษา – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งหมด 133 คน ครูตำรวจตระเวนชายแดน 8 นาย ผู้ดูแลเด็กก่อนวัยเรียน 1 คน ครู สพฐ.ตามโครงการแก้ไขปัญหาครูวิกฤติ 1 คน ครูอาสาลูกจ้างมูลนิธิสิริวัฒนภักดี 1 คน โดยมีดาบตำรวจหญิง สุภาวดี เข็มรัตน์ ทำหน้าที่ครูใหญ่

โดยทั้ง 2 โรงเรียน เป็นโรงเรียนในความรับผิดชอบของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 จังหวัดสกลนคร ซึ่งตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 เป็นต้นมา โรงเรียนได้ดำเนินกิจกรรมการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2560-2569 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างสมดุลในด้านพุทธิ-ศึกษา จริยศึกษา หัตถศึกษา และพลศึกษา ด้วยกระบวนการเรียนรู้จากการปฏิบัติ มีความรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ ภาคภูมิใจในความเป็นไทย และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและประเทศชาติ เพื่อขยายการพัฒนาจากโรงเรียนสู่ชุมชน ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้ ครอบครัวและชุมชนเกิดการพัฒนา ช่วยเหลือสนับสนุนการพัฒนาเด็กและเยาวชนและโรงเรียนไปพร้อม ๆ กัน และเพื่อผลักดันให้สถานศึกษาพัฒนาเป็นศูนย์บริการความรู้ สามารถถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการพัฒนาให้กับผู้ปกครอง ชุมชน และสถานศึกษาหรือองค์กรอื่น ๆ ทั้งจากภายในประเทศและจากต่างประเทศ เพื่อนำไปประยุกต์ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละที่ สร้างความร่วมมือและเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างประเทศ