หนุ่มกรุงเทพคลั่งรักจ้างรถมาจากพัทยาหาแฟนสาวที่ขอนแก่น แต่คุยกันไม่รู้เรื่องลงมือทำร้ายร่างกายและขู่ฆ่า พบหญิงสาวเพิ่งแท้งลูกได้ 3 วัน และถูกทำร้ายปางตายหลายครั้งจนต้องหนี
เมือเวลา 18.00 น. วันที่ 8 มี.ค.2566 พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.ท่าพระ จ.ขอนแก่น ได้รับแจกจากพลเมืองดีว่าเกิดเหตุชายคุ้มคลั่งใช้อาวุธมีจี้หญิงสาวเหตุเกิดภายในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง ริม ถ.มิตรภาพ ฝั่งขาล่อง มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังรับแจเงจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น,พ.ต.อ.ธนารัตน์ มีทองหลาง ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมประสานหน่วยปฎิบัติการพิเศษ บช.ภ.4 เข้าตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบเพียงรถเก๋งจอดอยู่พร้อมคนขับรถ ทราบชื่อว่านายพงษ์ศักดิ์ สร้อยอาภรณ์ อายุ 55 ปี ยืนอยู่ข้างรถ จึงทำการสอบสวน และกระจายกำลังกันออกตามหาหญิงที่ถูกฉุดลงจากรถ จนกระทั่งมีพลเมืองดี แจ้งว่า พบชายหญิงกำลังเดินอยู่ที่ตลาดท่าพระ 100 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไประงับเหตุและสามารถช่วยเหลือหญิงสาวรายดังกล่าวเอาไว้ได้อย่างปลอดภัย ทราบชื่อว่า น.ส.มนัสมล จันทร์ชิรัตน์อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210 ม.3 ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ส่วนฝ่ายชายที่เป็นคนก่อเหตุ ทราบชื่อว่า นายนเรศ จันทรัตน์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ซอยลาดปลาเค้า 55 ต.จระเข้บัว ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งสองมาสอบสวนที่สภ.ท่าพระ
นายพงษ์ศักดิ์ สร้อยอาภรณ์ อายุ 55 ปี กล่าวว่า มีอาชีพวิ่งรถรับจ้างอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี โดยช่วงเช้าที่ผ่านมานายนเรศเหมารถ มารับภรรยาที่อ.น้ำพอง ในราคา 6,500 บาท จ่ายล่วงหน้า 2,000 บาท จึงขับรถพานายนเรศมาหาภรรยาที่หมู่บ้านในอ.น้ำพอง เมื่อเจอตัวภรรยา นายนเรศก็ฉุดขึ้นรถ และสั่งให้ขับรถกลับไปที่พัทยาทันที ตลอดเวลาที่นั่งในรถ ก็จะได้ยินนายนเรศ ข่มขู่ ฆ่าและทำร้ายร่างกายภรรยาตลอดเวลา ภรรยาก็ร้องไห้ พร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ
“ผม พยายามจะจอดรถตามตู้ยามตำรวจริมถนนมิตรภาพ แต่นายนเรศไม่ให้จอด จนกระทั่งน้ำมันรถจะหมด ขับต่อไม่ได้ จึงขอเข้าไปเติมน้ำมันที่ปั้ม ปตท. ขณะกำลังเติมน้ำมัน จึงออกอุบายว่า ไม่มีเงินสด ต้องไปกดเอทีเอ็ม เอาเงินมาจ่ายค่าน้ำมัน จากนั้นจึงลงจากรถเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื่อ และขอความช่วยเหลือจากพนักงานขาย กระทั่งมีการแจ้งตำรวจมาช่วยเหลือหญิงสาวรายดังกล่าวเอาไว้ได้
พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.ท่าพระ กล่าวว่า ในระหว่างที่นายพงษ์ศักดิ์ ขอความช่วยเหลือและโทรศัพท์แจ้งตำรวจนั้น นายนเรศจึงกระชากแฟนสาวไปโบกรถริมถนนมิตรภาพ เพื่อหลบหนี จนกระทั่งตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ไกลนัก และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ
ท่าพระ ซึ่งจากการตรวจค้นตามร่างกายพบมียาบ้าซุกซ่อนในเสื้อฉันในของหญิงสาวจำนวน 8 เม็ดขณะที่นายนเรศฯ พบว่าพูดจาวกไปวนมาคล้ายคนเมายา อย่างไรก็ตามยังคงต้องให้ทั้ง 2 สงบสติอารมณ์และจะทำการสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้าไว้ในครอบครอง
ขณะที่ น.ส.มนัสมล กล่าวว่าได้คบหากับนายนเรศ เมื่อ 8 เดือนก่อนและตกลงอยู่กินกันเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันพบว่านายนเรศ มักจะทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้งทำให้ต้องหนีกลับบ้านที่ จ.ขอนแก่นมาแล้วหลายครั้ง แต่นายนเรศก็ได้ตามตัวกลับไป ล่าสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมาพบว่าตนเองตั้งครรภ์แต่ก็ยังถูกทำร้ายร่างกายจนแท้งลูกจึงหนีกลับมาอีกครั้ง เมื่อ 3 วันก่อน แต่นายนเรศฯ ก็ยังได้ว่าจ้างรถคันดังกล่าวมาตามตัวไปอีกครั้ง ซึ่งมาถึงบ้านได้พูดจาหวานล้อมจนตายใจ ขึ้นรถมาด้วย
“แต่หลังจากขึ้นรถมาก็ขู่ว่าจะแทงให้ตายและทำร้ายร่างกายหากไม่ไปด้วย ซึ่งตนได้แต่ขอร้องว่าขอให้ตนไปพบแม่ก่อน แต่นายนเรศ ก็ยังไม่หยุดทำร้ายร่างกาย สำหรับยาบ้าที่ค้นพบในตัวนั้นเป็นยาบ้าที่ได้ไปติดต่อขอซื้อจากเอเย่นต์แถวบ้าน หลังจากที่นายนเรศ โทรมาสั่งและโอนเงินจำนวน 300 บาทให้หาซื้อให้ก่อนเดินทางมารับตน อย่างไรก็ตามตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะไม่ขอกลับไปอีก เพราะไปพบเจอกี่ครั้งก็ถูกทำร้ายทุกครั้ง แม้ร่างกายจะบอบช้ำจากการแท้งลูกก็ยังไม่ละเว้น”