เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ภรรยานายเสริมศักดิ์ นายอรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ์ (พี่ชายนายณพจน์สกร) อดีต ส.ส.นครพนม 7 สมัย ออกลุยหาเสียงให้นายณพจน์สกรฯ ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 นครพนม จุดแรกที่บ้านหนองสังข์ อ.นาแก จ.นครพนม จุดที่ 2 ที่วัดป่ามหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม จุดที่ 3 บ้านหนองบัว ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม ในแต่ละจุดผู้ร่วมฟังปราศรัยประมาณ 3-4 พันคน
นายณพจน์สกร ทรัพย์สิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เขตเลือกตั้งที่ 4 ประกอบด้วย อ.นาแก อ.ปลาปาก อ.วังยาง และ อ.เมือง 3 ตำบล คือ ต.บ้านผึ้ง ต.กุรุคุ และ ต.วังตามัว พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่พูดติดปากว่า เป็นพื้นที่สีแดง ประชาชนในพื้นที่ตรงนี้ เลือกพรรคการเมืองที่ยืนหยัดอยู่ในฝั่งประชาธิปไตยมาโดยตลอดเวลาประมาณ 20 ปี พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ครองพื้นที่เขตนี้มาตลอด ประชาชนเชื่อมั่นต่อพรรคเพื่อไทย เพราะประชาชนเชื่อว่า เป็นพรรคการเมืองที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชน ทุกนโยบาย สามารถดำเนินการทั้งหมด พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เป็นอยู่ดี ระดับรากหญ้าลืมตาอ้าปากได้ ยุทธศาสตร์ทางการเมืองไม่มีอะไรมาก นอกจากนโยบายที่นำเสนอแก่ประชาชน สามารถปฏิบัติได้และนำพาประชาชนออกจากความทุกข์ยากได้สำเร็จ ยืนยันกับประชาชนเขตเลือกตั้งที่ 4 มีความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมาประชาชนยืนหยัดกับพรรค พรรคเสนอใครมา ประชาชนเลือกหมด คือแนวทางประชาธิปไตย พรรคจะเลือกคน ประชาชนจะเลือกพรรค เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เสนอตนเอง เป็นผู้ที่จะทำหน้าที่ดูแล แก้ไขปัญหาให้พี่น้องเขตเลือกตั้งที่ 4 ประชาชนยังคงยืนหยัดกับพรรคเพื่อไทยนโยบายในวันนี้ มีผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย นำโดยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรค นายอดิศร เพียงเกษ เป็นว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ มาปรายศรัยพบปะประชาชนในพื้นที่ ที่สำคัญคือการนำเสนอแนวทางนโยบายของพรรคที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในการบริหารบ้านเมือง ถ้าได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน
อย่างไรก็ตาม นโยบายที่สำคัญคือ ปราบปรามยาเสพติดให้จบภายใน 1 ปี สินค้าทางการเกษตรขึ้นยกแผง ประชาชนมีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาท จะมีการเติมเงินให้ทุกคนครอบครัวให้มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ประชาชนอายุต่ำกว่า 16 ปี จะได้รับกระเป๋าเงินดิจิตอล คนละ 10,000 บาท ทุกคน ถ้าพรรคได้เข้ามาบริหาร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ยืนยันแนวทางนโยบายที่นำเสนอไปแล้ว พรรคเพื่อไทยทำได้ เพราะเคยทำสำเร็จไปแล้ว
