เกิดพายุฤดูร้อนฝนตกและลมกรรโชกแรงในหลายพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ เบื้องต้นมีบ้านเรือนประชาชนเสียหายละได้รับผลกระทบใน 6 อำเภอ 15 ตำบล 57 หมู่บ้านจำนวน 328 หลังคาเรือน ด้านผู้ว่าฯกาฬสินธุ์สั่งการเร่งสำรวจและให้การช่วยเหลือ
วันที่ 16 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก และลมกรรโชกแรงในหลายพื้นที่ของ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งแรงของลม ส่งผลให้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ในเขตเทศบาลตำบลสงเปลือย ต.คุ้มเก่า และเทศบาลตำบลกุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ มีบ้านเรือนถูกพายุพัดเสียหายหลายหลังคาเรือน ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจว่าได้รับความเสียหายทั้งหมดกี่หลัง แต่บางหลังแรงลมได้พัดเอาหลังคาบ้านหลุดออกไปทั้งหลัง
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าในพื้นที่ อ.สมเด็จ อ.นาคู อ.นามน อ.กุฉินารายณ์ และอ.ห้วยเม็กเกิดพายุฤดูร้อน มีบ้านเรียนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างเช่นกัน หลังจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทุกพื้นที่มีสภาพอากาศที่ที่ร้อนอบอ้าวมีอุณหภูมิสูงต่อเนื่องมาตลอด
จากการสอบถามนาง ทองมา ยิ่งเลิศ อายุ 67ปี บ้านเลขที่139 บ้านกุดบอด ม.11 ต.สงเลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ เล่าว่า ก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์มีอากาศร้อนและอบอ้าว มีอุณหภูมิสูงต่อเนื่องมาตอดกระทั่งเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00น. วันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ได้มีเสียงฟ้าร้องท้องฟ้ามีสีแดงและมีลมแรง ก่อนจะเปลี่ยนมืดครึม จากนั้นก็มีลมพัดแรงเข้ามา และมีฝนตกพร้อมกับลูกเห็บซึ่งตกอยู่ประมาณ15-20นาที จึงส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนพังเสีย แรงลมได้หอบเอาหลังคาบ้านของตนและเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันปลิวไปหมดทั้งหลัง โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ขณะที่นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ระบุว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากนายอำเภอ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแล้วว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา เกิดพายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก ลมกรรโชกแรงใน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สมเด็จ นาคู อ.นามน อ.เขาวง อ.กุฉินารายณ์ และ อ.ห้วยเม็ก มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 15 ตำบล 57 หมู่บ้าน 328 ครัวเรือน และโรงเรียน 1 แห่ง ซึ่งหลังเกิดเหตุได้กำชับและสั่งการให้นายอำเภอทั้ง 6 อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเข้าให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนที่เสียทั้งหลังได้มีที่อยู่อาศัย พร้อมทั้งประสานไปยังสำนักงานเหล่ากาชาด เพื่อนำเครื่องอุปโภค บริโภคเข้าให้การช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังให้เร่งสำรวจความเสียหายอย่างละเอียดทุกพื้นที่ และรายงานเข้ามา เพื่อที่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป