ข่าวอัพเดทรายวัน

นครพนม กรณีชาวเน็ตเมนต์ ชวนขนหัวลุกที่แท้ เจ้าของมีบ้านหลายหลังไม่มีครอบครัว หลังเสียชีวิตจึงถูกทิ้งร้าง

จากกรณีกระทู้ถามในพันทิพย์ ถามถึงประวัติของบ้านร้างหลังหนึ่งในอำเภอธาตุพนมจังหวัดนครพนม ชาวเน็ตเมนต์ชวนขนลุกเพียบ! โดยสมาชิกพันทิปผู้ใช้ชื่อว่านัมนามู ได้โพสต์ภาพบ้านหลังหนึ่ง โดยอธิบายว่า เธอกลับบ้านช่วงสงกรานต์ บังเอิญขับรถผ่านบ้านหลังนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ถนนหน้าหาดแห่แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดนครพนม และสิ่งที่ดึงดูดความสนใจก็คือ ลักษณะตัวบ้านที่ค่อนข้างเก่า ถูกปล่อยร้าง และที่สำคัญมีการตั้งโกฏิใส่กระดูกของผู้ตาย เรียงกันอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังนั้น

วันที่ 21 เม.ย 2566 ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่าเป็นบ้านทรงสเปญ สองชั้น หลังคาทำแบบเก๋งจีน แลดูแตกต่างจากบ้านทรงสเปน ทั่วไป โดยตัวบ้านตั้งอยู่ริมถนนหน้าหาดแห่ เลขที่ 175 หมู่18 บ้านน้ำก่ำใหม่พัฒนา ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ตัวบ้านปลูกอยู่ในที่ดินเนื้อที่ประมาณ 3 ถึง 4 ไร่ สภาพโดยทั่วไปของบ้านดังกล่าว พบว่าเป็นบ้านร้างไม่มีผู้อยู่อาศัย สำหรับพื้นที่บริเวณโดยรอบได้รับการบำรุงรักษาตัดแต่งสนามหญ้าดูสะอาดตา ส่วนสภาพตัวอาคารของบ้านหลังนี้ สภาพทั่วไปก็ยังแข็งแรงมีเพียงช่องวงกบและหน้าต่างพบมีร่องรอยผุพังและกระจกแตกเป็นบางส่วน สิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านยังอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน และบริเวณหน้าบ้านยังคงมีโกฏิใส่อัฐิของผู้เสียชีวิตตั้งอยู่ นอกจากนั้นบริเวณหน้าบ้านข้างประตูทางเข้ายังมีศาลพระภูมิตั้งอยู่และพบว่าดอกไม้ที่นำมาไหว้ศาลพระภูมิยังคงสดอยู่บ่งบอกว่ามีคนมาสัการะและทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ

จากการสอบถาม นางเนตรนภา หอมมิตรอายุ 47 ปี แม่ค้าขายส้มตำ และอาหารตามสั่ง ที่ตั้งอยู่เยื้องกับบ้านหลังดังกล่าว ถึงความเป็นมาของบ้านหลังดังกล่าว ตลอดจนพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือความเฮี้ยนของบ้านนี้อย่างไรบ้าง นางเนตรนภา เปิดเผยว่า อันที่จริงบ้านหลังนี้ไม่มีอาถรรพ์หรือสิ่งลี้ลับอะไรเลย เคยเป็นบ้านของคุณครูสุนทร ลำลองหรือครูเซียง ซึ่งมีอาชีพรับราชการเป็นครูจนเกษียณแล้วมาปลูกบ้านหลังดังกล่าวและอาศัยอยู่ตามลำพังเป็นคนชอบเลี้ยงแมว ซึ่งต่อมาได้ล้มป่วยและเสียชีวิตลงด้วยโรคประจำตัว ซึ่งขณะมีชีวิตอยู่ครูเซียงได้นำเอาอัฐิของพ่อแม่มาเก็บไว้บนบ้านพักด้วย ภายหลังเสียชีวิต พี่สาวซึ่งเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ ก็นำเอาอัฐิของครูเซียงมาไว้เคียงคู่กับอัฐิของพ่อและแม่ โดยเก็บไว้ในโกฏิ เอามาวาง เรียงกันไว้หน้าบ้าน ตามความตั้งใจของครูเซียง โดยบ้านหลังดังกล่าวไม่มีคนมาอยู่อีกเลยหลังจากที่ครูเซียงเสียชีวิต นางเนตรนภา กล่าวเพิ่มเติมว่าครอบครัวของครูเชียงเป็นคนมีฐานะตัวครูเซียงไม่มีครอบครัวคงมีแต่หลาน ๆ ที่เป็นลูกของพี่สาวต่างก็เป็นหมอเป็นพยาบาลกันหมด จึงไม่มีใครมาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวจึงถูกปล่อยทิ้งร้างอย่างน่าเสียดาย ซึ่งที่ผ่านมา ก็ไม่มีเรื่องราวหรืออาถรรพ์ใด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกนี้ก็ไม่มีใครพบเจอเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด

ด้านนายดิเรก กระหล่ำผัก ผู้ใหญ่บ้านบ้านน้ำก่ำใหม่พัฒนา ม.18 ต.น้ำก่ำอ.ธาตุพนม ที่มีบ้านอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังดังกล่าวมากนัก เปิดเผยว่าบ้านหลังดังกล่าวก่อสร้างสมัยที่ตนยังเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเมื่อราว ๆ สิบกว่าปีมาแล้ว ตนรู้จักกับเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี โดยเจ้าของรับราชการเป็นครูจนเกษียณแล้วมาปลูกบ้านหลังดังกล่าวเพื่ออยู่อาศัย ซึ่งครอบครัวของครูซียงที่เป็นเจ้าของบ้านมีพี่น้องด้วยกันเพียงสองคน โดยครูเซียงมีพี่สาวอีกคนหนึ่ง แต่งงานมีครอบครัวและมีบุตรด้วยกันสองคนส่วนครูเซียง เจ้าของบ้านไม่มีภรรยาพอสร้างบ้านหลังดังกล่าวเสร็จก็พักอาศัยอยู่ที่นั่นได้ประมาณสองถึงสามปีก็ล้มป่วยและเสียชีวิตที่นั่น เมื่อถามถึงอาถรรพ์ของบ้านหลังดังกล่าว นายดิเรก กล่าวว่าบ้านหลังดังกล่าวไม่เคยมีข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับวิญญาณ หรือสิ่งลี้ลับใด ๆ เลยเนื่องจากตนอยู่ที่นี่มานาน ถ้ามีตนต้องรู้ก่อนอย่างแน่นอน แต่ถ้าเป็น บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งก็เป็นบ้านลักษณะเดียวกันเจ้าของเพิ่งขายไปโดยคนซื้อได้ซื้อไว้แล้วแต่ต้องไปอยู่ต่างประเทศและเสียชีวิต ทิ้งบ้านหลังใหญ่โตนี้ไว้โดยไม่มีคนอยู่ ที่ผ่านมาเคยมีคนมาขอเช่าขณะกำลังจะขนย้ายข้าวของเข้ามาอยู่ ก็เห็นว่ามีคนเดินไปเดินมาอยู่ในบ้าน จึงเกิดความกลัวไม่กล้ามาอยู่และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวอีกเลย นายดิเรก กล่าวพร้อมชี้ให้ผู้สื่อข่าวดูบ้านหลังดังกล่าว ที่ตั้งอยู่ติดกับบ้านของตัวนายดิเรก เอง โดยไม่กล้าเดินเข้าใกล้บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสำรวจดูใกล้ ๆ บ้านพบว่าหน้าติดป้ายห้ามเข้า พื้นที่ส่วนตัว ลักษณะบ้านเป็นทรงสเปน สองชั้นสร้างอยู่บนที่ดินเนื้อที่ประมาณ 3 ถึง 4 ไร่ สภาพยังใหม่แต่ถูกทิ้งร้างจนแลดูทรุดโทรม จนน่าสะพรึงกลัวไม่แพ้บ้านหลังแรก