“เศรษฐา ทวีสิน” บุกบุรีรัมย์ ปลุกชาวสตึก กาเพื่อไทย สองใบให้แดงทั้งแผ่นดิน ขายฝันเดินหน้านโยบายกระเป๋าตังค์ดิจิตอล ฟาดพรรครัฐบาลบี้หนักภูมิใจไทย ไม่มีกัญชากลางถนน “ณัฐวุฒิ” เหน็บ ประยุทธ์-ประวิตร-อนุทิน รู้หรือไม่ว่าตอนนี้ลูกพรรคทิ้งคุณลงข้างทางหมดแล้ว
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 30 เมษายน 2566 ที่โดมอเนกประสงค์ โรงเรียนสตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ 5 เขต ประกอบด้วย นายพีรภัทร ทองธีรสกุล เขต 1 นายปรัญชญา ตรีกาญจนา เขต 2 ว่าที่ ร.ต.เสนาะ พรหมสวัสดิ์ เขต 3 นายสุรศักดิ์ นาคดี เขต 4 และ นายเล็ง พยุงแสนกุล เขต 5 โดยมีประชาชนมารับฟังการปราศรัย ประมาณร่วม 10,000 คน
นายเศรษฐา ปราศรัยว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาพบปะพี่น้องชาวบุรีรัมย์ทุกคน พี่น้องลำบากมานานหลายปี พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้สนใจเอาใจใส่พี่น้องเลยใช่ไหม ค่าครองชีพแพง ค่าไฟแพง เขาเป็นรัฐบาลมานานหลายปี ถ้าเขาอยากช่วยลดค่าไฟ แค่ประชุม ครม.ครั้งเดียวตัดสินใจได้เลยแต่ก็ไม่ทำ แล้วมาบอกให้เลือกเขาแล้วจะมาแก้ แบบนี้เชื่อได้ไหม ดังนั้น อย่าไปเชื่อ พี่น้องที่นี่มีหนี้สินเยอะ ทำเท่าไรก็ไม่พอใช้หนี้ ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ประชุม ครม.ครั้งแรกพักหนี้ทั้งต้นทั้งดอก 3 ปีทันทีไม่ต้องรอ เพราะเราคิดใหญ่ ทำเป็นต้องพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ค่าแรงขั้นต่ำปีแรก 400 บาททันที ใน 4 ปีขึ้นเป็น 600 บาท เราเข้าใจความยากลำบากของพี่น้อง ขอให้พี่น้องโห่ร้องว่าไม่เอารัฐบาลนี้แล้ว
นายเศรษฐา ปราศรัยอีกว่า ทุกนโยบายของเราโดนใจพี่น้อง นโยบายใหญ่ของเราคือกระเป๋าตังค์ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทเข้ากระเป๋าพี่น้องทุกคนทันทีสำหรับคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป บัตรคนจนจะหายไปทันที แต่ขอให้พี่น้องเก็บไว้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แจกบัตรคนจนเพื่อกดให้จนแล้วค่อยแจก เราไม่เอาแล้วกับรัฐบาลที่ไม่เห็นหัวประชาชน ส่วนเรื่องยาเสพติดระบาดไปทั่วทุกหัวระแหง รัฐบาลทหารคุยโม้โอ้อวดว่าจะนำมาซึ่งความมั่นคง แต่ถ้าลูกหลานติดยาจะมีความมั่นคงได้อย่างไร พรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ก็แก้ปัญหานี้ไม่ได้
“ดังนั้น ถ้าเพื่อไทย เป็นรัฐบาล นายกฯ จะนั่งหัวโต๊ะเป็นเจ้าภาพบัญชาการทุกเรื่อง เราจะบำบัดผู้เสพ ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า เราจะยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดินโดยเร็ว ส่วนพรรคภูมิใจไทยที่เสนอเรื่องกัญชาเสรี ผมเป็นนักธุรกิจมา 30 ปี เชื่อเถอะว่าปลูกไปก็ราคาตก ไม่เจริญรุ่งเรือง เพื่อไทยเชื่อเรื่องกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น ถ้า เพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะไม่มีกัญชากลางถนน” นายเศรษฐา ระบุ
นายเศรษฐา กล่าวค่อว่า ทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าพี่น้องไม่เลือก เพื่อไทยเข้าสู่สภาฯ ยืนยันว่า เราไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ไม่จับมือกับใคร ขอให้พี่น้องกาพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบให้แดงทั้งแผ่นดิน ขอให้ช่วยผลักดันผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ทุกเขต เพื่อผลักดันนโยบายดีๆ เข้าสู่สภาด้วย
ด้านนายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า เดี๋ยวนี้มีนักการเมืองหลายพรรค เดินหาเสียงบอกชาวบ้านว่าพรรคให้เลือกเพื่อไทย ส่วนเขตให้เลือกเขา อยากบอก พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร นายอนุทิน รู้หรือไม่ว่าตอนนี้ลูกพรรคทิ้งคุณลงข้างทางหมดแล้ว ไม่ต้องมาช่วยหาเสียง เพื่อไทยเราหาเสียงเองได้เลือกเพื่อไทยทั้งสองใบ
ดังนั้น ถ้าต้องการเพื่อไทย อยากเลือกเพื่อไทย ก็ให้กาเพื่อไทยทั้งสองใบ แล้วไม่ต้องเป็นห่วงว่าพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ พี่น้องจะไปวิตกกังวล จะไปเกรงใจใครที่ไหน ไม่ต้อง ครูใหญ่อะไร พี่น้องไม่ต้องกังวล นี่ผู้อำนวยการ ใหญ่กว่า
คนบุรีรัมย์ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลกับพรรคเพื่อไทย คนบุรีรัมย์เคยเลือกพรรคเพื่อไทยมาก่อน ตั้งแต่ยุคไทยรักไทย ตั้งแต่ยุคพลังประชาชน คนบุรีรัมย์ เคยไว้วางใจพรรคการเมืองนี้ ไปทำหน้าที่และพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวที่ทำได้ทุกนโยบายที่ประกาศไป อยู่กับประยุทธ์ ใครเป็นหนี้ เพื่อไทยมาพักหนี้ 3 ปี ทั้งต้นทั้งดอก