“หมู วิรัช พิมพะนิตย์” ว่าที่ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย กราบขอบคุณประชาชนชาวกาฬสินธุ์ทุกคะแนนเสียง หลังผ่านพ้นการเลือกตั้งผลชนะคู่แข่งอย่างท่วมท้น และได้คะแนนมากติด 1 ใน 10 ที่ประชาชนเลือกสูงสุดของประเทศ ยืนยันพร้อมทำหน้าที่เป็นปาก เป็นเสียง ผลักดันเรื่องต่างๆ เพื่อพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ให้ดียิ่งขึ้น ย้ำพร้อมสนับสนุน “พิธา”พรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ประธานสภาฯต้องเป็นคนของพรรคเพื่อไทย แนะผู้บริหารทั้ง 2 พรรค รีบคุยกันและจับมือร่วมกันพัฒนาประเทศ
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานพรรคเพื่อไทย จ.กาฬสินธุ์ เขต 1 นายวิรัช พิมพะนิตย์ หรือ หมู ว่าที่ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้ขอบคุณประชาชนชาวกาฬสินธุ์ทุกคะแนนเสียง หลังผลการเลือกตั้งชนะคู่แข่งและได้คะแนนอย่างท่วมท้น และได้คะแนนเสียงติด 1 ใน 10 ที่ประชาชนเลือกสูงสุดของประเทศ
โดยนายวิรัช กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ทุกคน และทุกเขตทั้ง 6 เขตที่ช่วยส่งแรงใจให้พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะชาวกาฬสินธุ์ เขต 1 ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียง ที่เมตตา ให้โอกาส และให้ความไว้วางใจ “หมู วิรัช”ในการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566ที่ผ่านมา จนได้รับการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 เขตเลือกตั้งที่ 1 ของ จ.กาฬสินธุ์ ด้วยคะแนนเสียง 56,559 คะแนน และทำให้ได้อันดับ 10 ของผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุดระดับประเทศด้วย
นายวิรัช กล่าวต่อว่า ขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า จะทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ และเต็มความสามารถ จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นปาก เป็นเสียงแทนพี่น้องประชาชน รวมทั้งการพลักดันและขับเคลื่อนเรื่องต่างๆ เพื่อนำมาสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้กับประชาชน และนำมาสู่การพัฒนา จ.กาฬสินธุ์ให้มีความเจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ยืนยันว่ากาฬสินธุ์ต้องดีกว่านี้
นายวิรัช กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในส่วนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ส่วนตัวตนมองว่าพรรคก้าวไกลได้คะแนนเป็นอันดับ 1 มีสิทธิ์ที่จะเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเองจะต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษสนับสนุน ซึ่งตนก็พร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้พรรคก้าวไกล โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้โอกาสคนหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ได้ทำงาน แต่ในส่วนประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้นตนมองว่าตำแหน่งนี้ก็ควรจะต้องให้พรรคเพื่อไทยได้ทำหน้าที่ เพราะพรรคอันดับ 1 และ อันดับ 2 จะต้องทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ตามตนอยากให้ผู้บริหารทั้ง 2 พรรค ควรที่จะเร่งพูดคุยปรึกษาหารือกัน อย่าทะเลาะกัน เพื่อที่จับมือและร่วมกันทำงานให้กับประเทศชาติต่อไป