ข่าวอัพเดทรายวัน

บุรีรัมย์ชาวบ้านรวมตัวประท้วงจี้รื้อฝายปูนขวางลำคลองสาธารณะเอกชนที่สร้างยอมทุบทิ้งหวั่นบานปลาย

ชาวบ้านคอกควาย อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รวมตัวประท้วงเรียกร้องให้ตรวจสอบการก่อสร้างฝายปูนขวางลำรางคลองสาธารณะ ทั้งที่ไม่มีการทำประชาคมหรือขออนุญาต หวั่นกระทบทำน้ำไหลไม่สะดวกและเอ่อท่วมไร่นา อบต.ยันไม่มีใครขออนุญาตเร่งตรวจสอบ ล่าสุดภาคเอกชนที่สร้างฝายดังกล่าวยอมทุบทิ้งแล้วป้องกันปัญหาบานปลาย พร้อมยันแจ้งผู้เกี่ยวข้องก่อนสร้างแล้วชี้ทำประโยชน์ส่วนรวม

วันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ชาวบ้านบ้านคอกควาย หมู่ 7 ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รวมตัวกันประท้วงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการก่อสร้างฝายปูนซีเมนต์ขวางลำรางคลองสาธารณะ ริมถนนสายนางรอง – ลำปลายมาศ โดยไม่มีการประชาคมหรือขออนุญาตจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ โดยชาวบ้านที่ออกมารวมตัวร้องเรียนเกรงว่าฝายกั้นน้ำดังกล่าว จะส่งผลกระทบทำให้น้ำไหลไม่สะดวกและเกิดปัญหาน้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรช่วงที่มีน้ำหลาก หากเป็นไปได้ก็อยากให้รื้อฝายดังกล่าวออก เพราะไม่ได้มีการขออนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้องตามขั้นตอนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว โดยฝายปูนดังกล่าวมีความยาวประมาณ 15 เมตร กว้าง 8 เมตร และสูง 2 เมตร 50 เซนติเมตร มีท่อปูนซีเมนต์สำหรับระบายน้ำด้วย และจากการตรวจสอบพบว่าผู้ที่ก่อสร้างฝายดังกล่าวเป็นภาคเอกชนที่มีที่ดินอยู่บริเวณดังกล่าว และเป็น 1 ในผู้ที่ร่วมบริจาคที่บางส่วนร่วมกันชาวบ้านอีกหลายคนเพื่อขุดลอกคลองสาธารณะ

หลังจากรวมตัวประท้วงที่บริเวณฝายปูน ชาวบ้านยังได้พากันไปยื่นหนังสือร้องที่ อบต.นางรอง เพื่อขอให้ทำการตรวจสอบการก่อสร้างฝายกั้นน้ำขวางคลองสาธารณะว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็ขอให้รื้อถอนออก เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชาวบ้าน และให้เป็นบรรทัดฐานในการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย

น.ส.ปัทมาพร เตียงนิล อายุ 47 ปี ชาวบ้านคอกควาย บอกว่า บริเวณดังกล่าวที่มีการก่อสร้างฝายปูนกั้นน้ำ เดิมเป็นลำรางสาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้านมีชาวบ้านหลายคนร่วมบริจาคที่เพื่อขุดลอกให้น้ำไหลอย่างสะดวก ซึ่งก็ไม่แน่ใจผู้ที่ก่อสร้างจะเป็นการบุกรุกที่สาธารณะหรือไม่ จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐมาตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขด้วย อย่ารอให้เกิดปัญหาขึ้นก่อน ซึ่งชาวบ้านอยากให้เป็นคลองสาธารณะประโยชน์โดยแท้จริงไม่ใช่ว่าบุคคลใดบุคคลหนึ่งจะมาทำอะไรก็ได้

เช่นเดียวกับนายพานิชย์ ดีด้วยชาติ อายุ 68 ปี ชาวบ้านคอกควาย ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นคลองธรรมชาติพอมีสภาพตื้นเขินก็ทำเรื่องของบชลประทานมาขุดลอก เพื่อให้น้ำไหลสะดวกมากขึ้น และชาวบ้านที่ทำไร่ทำนาก็ได้ใช้ประโยชน์จากคลองน้ำดังกล่าวด้วย แต่กลับมีคนมาสร้างฝายปูนขวางลำรางคลองสาธารณะดังกล่าว ชาวบ้านจึงเกรงจะเกิดผลกระทบน้ำไหลไม่สะดวกและน้ำเอ่อท่วมไร่นา จึงอยากให้รื้อฝายปูนดังกล่าวออก ให้กลับเป็นคลองสาธารณะธรรมชาติเหมือนเดิม

ด้านนางผาสุข ประทุมทอง นายก อบต.นางรอง บอกว่า ไม่เคยมีใครมาขออนุญาตสร้างฝายปูนดังกล่าวกับทาง อบต. ดังนั้นถือว่าดำเนินการไม่ถูกต้องตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผู้ที่ก่อสร้างก็จะต้องรื้อถอนออก แต่การที่จะให้รื้อก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบราชการ ทั้งแจ้งให้ผู้ดำเนินการก่อสร้างทราบ สำรวจผลกระทบชาวบ้าน โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามผู้ประกอบการ ที่ดำเนินการก่อสร้างฝายปูนดังกล่าว ก็ให้ข้อมูลว่า ได้ว่าจ้างช่างในหมู่บ้านก่อสร้างฝายปูนกั้นน้ำดังกล่าวจริง ซึ่งมีความยาวประมาณ 200 เมตร จุดประสงค์ก็เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม หน้าแล้งจะได้เก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรหน้าฝนก็สามารถระบายน้ำออกได้ เพราะทำท่อปูนด้วยโดยใช้เงินส่วนตัว 5 หมื่นบาท แล้วจุดที่ก่อสร้างตนเองก็เป็น 1 ในคนที่เคยบริจาคที่ดินให้เป็นลำรางสำหรับระบายน้ำ และก่อนจะทำการก่อสร้างก็ได้แจ้งทางผู้นำชุมชน และทางชลประทานทราบแล้ว จึงคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะทำแล้วก็ใช้เพื่อประโยชน์ส่วนร่วมอยู่แล้วไม่ได้ทำเพื่อส่วนตัว แต่เมื่อมีชาวบ้านไปร้องเรียนเพราะเกรงจะเกิดผลกระทบในอนาคต จึงตัดสินใจให้รถแบล็คโฮไปทุบรื้อฝายปูนดังกล่าวออก เพื่อความสบายใจของชาวบ้านและไม่ได้เกิดปัญหาบานปลาย