ข่าวอัพเดทรายวัน

เตือนน้ำท่วมฉับพลันฝนตกหนักระวังดินโคลนถล่ม

ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยากาฬสินธุ์ เตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ประชาชน ระวังอันตรายจากฝนตกฟ้าคะนอง น้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาภูพาน ระวังดินโคลนสไลด์ น้ำป่าไหลหลาก พื้นที่ราบลุ่มระวังน้ำเอ่อท่วมขัง และนาข้าวได้รับความเสียหาย หลังเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ และเกิดภาวะน้ำท่วมถนนฉับพลัน เนื่องจากน้ำระบายไม่ทัน ล่าสุดสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

วันที่ 19 มิถุนายน 2566 นายมะณี อุทรักษ์ ผู้อำนวยการสถานีอุตินิยมวิทยากาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในช่วงนี้ถือได้ว่าเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัว ซึ่งจะมีพายุ ฟ้าคะนอง ฝนตกหนักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง สำหรับพยากรณ์อากาศทั่วไปในสัปดาห์นี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยพยากรณ์บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 19 มิ.ย.66 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.กาฬสินธุ์ จ.เลย จ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ จ.สกลนคร จ.นครพนม จ.ขอนแก่น จ.มุกดาหาร จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ในช่วงวันนี้และวันที่ 23-24 มิ.ย. 66 ทางด้านนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้ฝากเตือนและขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์-จ.สกลนคร บริเวณเทือกเขาภูพาน จึงขอเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ประชาชน ระวังอันตรายจากฝนตกฟ้าคะนอง ถนนลื่น ทัศนวิสัยไม่ดี ดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก ขณะที่บริเวณที่ราบลุ่ม ระวังน้ำเอ่อท่วมขังนาข้าว พื้นที่ประมง ได้รับความเสียหาย และระวังน้ำท่วมฉับพลันในช่วงนี้ด้วย

อย่างไรก็ตามจากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัว พบว่าได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้หลายพื้นที่มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ยางตลาด อ.เมืองกาฬสินธุ์ และ อ.สมเด็จ ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน เฉพาะบริเวณถนนสี่แยกสมเด็จ-โรงพยาบาลสมเด็จ ซึ่งน้ำได้เอ่อท่วมผิวทางจราจร น้ำระบายไม่ทัน ความสูงระดับน้ำประมาณ 30-40 ซม. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอโสกสมเด็จ และเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงสมเด็จ เร่งช่วยกันติดตั้งป้ายเตือนและควบคุมการจราจรให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ให้มีความระมัดระวัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น และล่าสุดสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และสามารถสัญจรผ่านไปมาได้แล้ว