ข่าวอัพเดทรายวัน

ตร.ตั้งข้อหาหนักกับคนขับรถบัสรับส่งนักวิ่งตกเขาช่องสะงำ

ศรีสะเกษ คืบหน้ารถรับส่งนักวิ่งตกเขาช่องสะงำ ตร.ตั้งข้อหาหนักกับคนขับรถบัส เผยยอดรวมผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จำนวน 53 ราย ใช้รถเครนขนาดใหญ่ 2 คันดึงซากรถบัสขึ้นจากใต้หน้าผาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เกิดเหตุรถบัสรับส่งนักวิ่ง เสียหลักแหกโค้งตกเขาทางลง จากจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากที่เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งตามเส้นทางภูมิประเทศ SURANAREE TRAIL RUNNING 2023 ซึ่งกองกำลังสุรนารี ได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวนมาก และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย ได้รับบาดเจ็บ 49 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 8 ราย ซึ่งได้ถูกส่งไปที่ รพ.ศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์ได้ทำการรักษาอย่างเร่งด่วน ล่าสุด พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ลาภ ศรีสำอางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษได้เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุที่รถบัสรับส่งนักวิ่งตกเขา พร้อมทั้งได้ไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ รพ.ภูสิงห์ ส่วนสาเหตุคาดว่า เกิดจากระบบเบรกขัดข้อง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 17.15 น. วันที่ 9 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดที่รถบัสรับส่งนักวิ่งตกเขา ถนนสายช่องสะงำ – บ้านแซรไปร์ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.สมภพ ประกอบผล สารวัตรเวร สภ.ภูสิงห์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ตร.พิสูจน์หลักฐาน ตร.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุรถบัสตกเขา โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำเอารถเครนขนาดใหญ่ จำนวน 2 คัน พร้อมด้วยรถของสำนักงาน ปภ.จ.ศรีสะเกษ ที่ติดตั้งไฟส่องสว่างมาเตรียมพร้อมในการที่จะยกเอารถบัสขึ้นมาจากใต้หน้าผา ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ ได้ทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อที่จะได้หาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ที่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มาทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยได้เก็บเงินรางวัลของนักวิ่งที่ได้รับเงินรางวัลจำนวน 2,000 บาทได้ โดยได้มอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อนำส่งคืนเจ้าของเงินรางวัล หลังจากที่เจ้าหน้าที่ ตร.พิสูจน์หลักฐาน ได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่รถเครนทั้ง 2 คัน ได้ทำการนำเอาลวดสลิงลงไปเกี่ยวกับรถบัสและทำการดึงเอาซากรถบัสขึ้นมาจากบริเวณหน้าผาที่อยู่ลึกลงไปประมาณ 15 เมตร อยู่ติดกับสะพานข้ามคลองธรรมชาติ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็สามารถดึงเอารถบัสขึ้นมาได้ และนำเอาซากรถบัสไปวางบนรถเทรลเล่อร์เพื่อนำเอาไปเก็บไว้รอการตรวจพิสูจน์อีกครั้งจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประกันสังคมจังหวัดศรีสะเกษ นำโดย นางจารุรัศมิ์ โคตรคำ นักวิชาการแรงงาน และคณะ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายสมบัติ เสงี่ยมศักดิ์ ประกันสังคมจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำคณะมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบข้อมูลของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่ง นางจารุรัศมิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่า มีประกันตน จำนวน 5 ราย แยกเป็นประกันตนตามมาตรา 33 จำนวน 3 ราย ประกันตนตามมาตรา 40 จำนวน 2 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ ซึ่งหากการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเกิดขึ้นเนื่องจากการทำงาน จะได้รับความคุ้มครองจากกองทุนประกันสังคม แต่หากเป็นกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อันเนื่องจากไม่ใช่การทำงาน จะได้รับความคุ้มครองจากงินกองทุนทดแทน ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่น สำนักงาน คปภ.ดำเนินการให้ความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถต่อไป

ทางด้าน พ.ต.ท.สมภพ ประกอบผล สารวัตรเวร สภ.ภูสิงห์ เจ้าของคดีนี้ กล่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในเบื้องต้นได้ตั้งข้อหากับ นายธนโชติ เสาเวียง ผู้ขับขี่รถบัส คันที่เกิดเหตุว่า ขับขี่รถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย ซึ่งขณะนี้ นายธนโชติ ได้รับบาดเจ็บสาหัสขาหัก 1 ข้าง ถูกส่งตัวไปที่ รพ.ศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาพยาบาลแล้ว ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเกิดเหตุครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 53 คน เสียชีวิต 4 รายเป็นชาย 1 ราย คือ สิบเอก ทศพร หาญณรงค์ สังกัด ร้อย ร. 213 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 และเป็นหญิง 3 รายคือ นางสิริกร ปัญกาญจน์สกุล น.ส. อรทัย จำปาทอง และ น.ส.มณีรัตน์ สกุลศิริกิต

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 49 ราย ถูกส่งตัวไปรักษาพยาบาลที่ รพ.ภูสิงห์ รพ.ศรีสะเกษ และ รพ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแพทย์ได้ทำการรักษาพยาบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยได้อนุญาตให้ผู้บาดเจ็บกลับไปพักรักษาตัวต่อที่บ้านได้