เรือนจำจังหวัดยโสธรใช้พื้นที่ว่างภายในบริเวณบ้านพักของผู้บัญชาการเรือนจำทำเป็นโคกหนองนาแห่งน้ำใจ เพื่อใช้เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงสำหรับผู้ที่สนใจและใช้เป็นสถานที่ฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขังก่อนปล่อยตัว รวมทั้งยังทำแหล่งท่องเที่ยวจุดถ่ายภาพเช็คอินแห่งใหม่กลางใจเมืองยโสธร
นายณรงค์พงค์ พิศิลป์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดยโสธรได้ปรับพื้นที่ว่างบริเวณบ้านพักของผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดยโสธร พื้นที่ประมาณ 7 ไร่ และแบ่งเป็นพื้นที่ จำนวน 4 ไร่ ทำเป็นศูนย์การเรียนรู้โครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวังกรมราชทัณฑ์ เรือนจำจังหวัดยโสธร เพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและฝึกทักษะการประกอบอาชีพแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ รวมทั้งเพื่อเป็นแหล่งศึกษาดูงานแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไปที่สนใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์พระราชา โดยมีการแบ่งพื้นที่เป็นโคก ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับปลูกต้นไม้ยืนต้นและไม้เศรษฐกิจต่างๆ ทำเป็นหนองประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเลี้ยงปลาและทำการเกษตร ทำเป็นนา 30 เปอร์เซ็นต์ สำหรับปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ และอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ทำเป็นที่อยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์ ทั้งเลี้ยงเป็ด,เลี้ยงไก่,และเลี้ยงกบ เพื่อเป็นอาหารส่วนที่เหลือก็ส่งจำหน่ายเป็นรายได้ โดยจะมีผู้ต้องราชทัณฑ์ที่มีความประพฤติดีและใกล้ที่จะพ้นโทษเข้าไปฝึกอาชีพและคอยดูแลพืชผักต่างๆรวมทั้งเลี้ยงสัตว์อยู่ภายในโคกหนองนาแห่งนี้
นอกจากนี้แล้วภายในบริเวณศูนย์การเรียนรู้โคกหนองนาแห่งน้ำใจแห่งนี้ยังได้ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพเช็คอินแห่งใหม่ใจกลางเมืองยโสธร โดยการสร้างบ้านต้นไม้ด้วยฝีมือของผู้ต้องราชทัณฑ์ พร้อมร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยว และร้านนวดแผนไทย โดยฝีมือผู้ต้องขังในราคาที่ย่อมเยา เพื่อคอยบริการให้กับประชาชนทั่วไปและให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจแก่ผู้สนทั่วไปอีกด้วย
นายณรงค์พงค์ พิศิลป์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดยโสธร กล่าวว่า สำหรับพื้นที่แห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่สำหรับฝึกทักษะวิชาชีพให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่มีความประพฤติดี และใกล้ที่จะพ้นโทษแล้วได้ฝึกวิชาชีพให้มีความรู้การทำเกษตรโคกหนองนาตามหลักศาสตร์พระราชา เพื่อนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงชีพตนเองได้หลังจากพ้นโทษไปแล้ว โดยการแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนเพื่อทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ และเป็นที่อยู่อาศัย การฝึกทักษะงานไม้ งานฝีมือ การนวด การชงเครื่องดื่มและการทำอาหาร เป็นต้น เพื่อให้ผู้คนเหล่านี้มีมีทักษะเพื่อนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว และไม่ย้อนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก นอกจากนั้นแล้วที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไปที่สนใจ ทั้งการทำเกษตร การทำปุ๋ยหมัก การเลี้ยงกบ การเลี้ยงไก่ และเลี้ยงปลา รวมทั้งได้พักผ่อนในบรรยากาศบ้านต้นไม้ที่สวยงาม เย็นสบาย พร้อมอุดหนุนเครื่องดื่ม ขนม และอาหาร เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ด้วย ซึ่งที่นี่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 -16.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
จึงขอเชิญชวนชาวจังหวัดยโสธรและจังหวัดใกล้เคียง ได้มาเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามศาสตร์พระราชา และเยี่ยมชมพร้อมถ่ายรูปเช็คอินจิบกาแฟในบรรยากาศชิลๆที่บ้านต้นไม้เรือนจำจังหวัดยโสธร แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่พร้อมต้อนรับทุกท่าน