วันที่ 18 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่ไข่ไก่ได้ปรับราคาจำหน่ายขึ้นราคาอีกแผงละ 6 บาท ซึ่งเป็นราคาไข่ไก่ที่แพงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ร้านค้าส่วนใหญ่ต้องปรับกลยุทธ์ในการขายเนื่องจากต้องประสบกับภาวะต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น และไม่อยากที่จะปรับขึ้นราคาอาหารเนื่องจากขณะนี้สินค้าต่างๆแพงขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะที่ร้านสุโภชนา ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณตลาดตองแปด ถ.รื่นรมย์ เขตเทศบาลขอนแก่น พบว่า ทางร้านยังคงแบกรับต้นทุนไว้เพื่อหวังให้รัฐบาลใหม่เข้ามาช่วยแก้ปัญหา





นายมีชัย สุตมาตย์ อายุ 67 ปี เจ้าของร้านสุโภชนา กล่าวว่า ราคาไข่ไก่ที่ปรับราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงปีใหม่เป็นตันมา จากการสอบถามทราบว่าสาเหตุมาจากฟาร์มให้เหตุผลว่าอากาศร้อนทำให้ไก่ออกไข่น้อยลง และส่งไข่ไปขายยังต่างประเทศได้ ขณะที่ทางร้านใช้ไข่ไก่เบอร์ 2 ก่อนหน้านี้ซื้อแผงละ 80 บาท ราคาปัจจุบันแผงละ 135 บาท ซึ่งราคาปัจจุบันนี้ขึ้นมาได้ 2 วันแล้ว ทางร้านที่ส่งไข่ให้ยังบอกอีกว่ามีแนวโน้มราคาไข่จะปรับขึ้นไปอีก
” ร้านใช้ไข่ประมาณวันละ 4 แผง ซึ่งการปรับขึ้นราคาไข่ไก่ถือว่ามีผลกระทบกับทางร้านในเรื่องต้นทุนอย่างมาก แต่ทางร้านก็ยังไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้เพราะดูจากค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากไม่ขยับขึ้น ถ้าทางร้านขึ้นราคาไปอีก จะเป็นการซ้ำเติมผู้บริโภค และร้านยังไม่ลดปริมาณลงหรือใช้ไข่ไก่ใบเล็กลงเพราะถ้าเล็กลงกว่านี้จะดูไม่เหมาะสม”


นายมีชัย กล่าวต่ออีกว่า ร้านต้องยอมแบกรับต้นทุนขายให้ได้ค่าเช่าและเหลือกำไรนิดหน่อยพออยู่ได้ เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วอย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศอยากให้ช่วยเรื่องเศรษฐกิจ เกี่ยวกับปากท้องประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะ เรื่องของแพงที่อยากให้ทุกอย่างปรับราคาถูกลงให้เหมาะสมกับค่าแรงที่ได้รับ เนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมาไม่ช่วยอะไรคนรากหญ้าใดๆเลย จึงอยากให้รัฐบาลใหม่เข้ามาช่วยเหลือประชาชนจริงๆ แต่ดูแล้วความหวังน่าจะเป็นไปได้ยากเพราะว่าเห็นคนที่ตั้งใจจะมาช่วยประชาชนทีไร ก็รู้สึกว่ามีคนคอยเตะตัดขาอยู่ตลอดไม่ยอมให้ไปถึงฝั่ง ต่างพากันรอสกัดอย่างเดียวโดยไม่ยอมให้ไปถึงฝัน