กรณีชายวัย 38 ปีเมาอาละวาดโวยวาย พอเหล้าเข้าปากพานิสัยเปลี่ยน คว้าอิฐบล็อกปาใส่รถเก๋งเพื่อนบ้านที่จอดอยู่ละแวกเดียวกัน และกระจกบ้านหลังหนึ่งได้รับความเสียหาย 1 คันบ้านอีก 1 หลัง ทำให้ชาวบ้านสุดทนต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมานำตัวไปขังระงับสติอารมณ์และดำเนินคดี





วันที่ 2 สิงหาคม 2566 เมื่อเวลา 18.50 น. ศูนย์วิทยุศรีไผท สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งว่ามีชายเมาอาละวาดโวยวายโดยใช้ก้อนอิฐบล็อกปาใส่รถยนต์เก๋ง และปาหน้าต่างกระจกบ้านชาวบ้าน และยังเดินตะโกนส่งเสียงดังโวยวายด่าทอหยายคายเสียงดังก่อกวนไปทั่วซอย จนชาวบ้านตกใจไม่ได้หลับได้นอนที่บริเวณซอยโดนไข 2 อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานไปยัง ร.ต.ท.สรกฤษฏ์ ทารักษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมือง จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจำนวนหนึ่ง รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกับเข้าจับกุมตัว





ล่าสุดวันที่ 3 สิงหาคม 2566 ทีมข่าวลงพื้นที่ซอยโดนไข2 พบกับนาง รจนา แนบทางดี อายุ 62 ปี(เสื้อสีฟ้า) เจ้าของบ้านกระจกแตก เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเวลาเมาแล้วจะเอะอะโวยวายหาเรื่องซึ่งชาวบ้านในชุมชนต้องปิดบ้านและไม่สนใจถามว่ากลัวไหมทั้งกลัวและกลัวถูกทำร้าย โดยผู้ก่อเหตุนั้นเคยมีประวัติติดคุกมาแล้ว2ครั้ง ครั้งแรกข้อหาลักขโมย และเอามีดฟันหัว และไม่รู้ว่าการเกิดเหตุในครั้งนี้ทางผู้ก่อเหตุจะมีเวินมาซ่อมกระจกบ้านให้ได้หรือเปล่า เพราะค่าซ่อมแซมน่าจะราคาร่วมหมื่นบาท





สัมภาษณ์นายทัน สนั่นนาม (เสื้อสีน้ำเงิน) อายุ79 ปี บ้านเลขที่ 47 ซอยโดนไข2 เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าเมื่อ2ปีที่แล้วตนและนายแม็คมีปัญหากันโดยนายแม็คเมาพูดจาว่าตนเป็นขอทาน ตนก็เถียงไปว่าก็ไม่มีเงินก็ต้องขอเค้าด้านนายแม็คไม่พอใจจึงได้หยิบมีดฟันหัวตนต้องเย็บหลายเข็มก็ติดคุกดำเนินคดีไป ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณกว่า2 ปีแล้ว พอออกมาก็ไม่เปลี่ยนนิสัยกลับมาแรงกว่าเดิม สงสารแต่พ่อแม่ผู้ก่อเหตุทั้งสองเดินไม่ได้ตาก็มองไม่เห็น นายทัน ยังเล่าต่ออีกว่า วันนั้นตนนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ผู้ก่อเหตุเมาโวยวายเดินถือมีดมา พอมาใกล้ตนยกมีดฟันเข้าที่หัวตนเลือดนอง ชาวบ้านโทรเรียกตำรวจมาจับไป ซึ่งตนและผู้ก่อเหตุไม่เคยมีเรื่องอะไรเลย
ด้านนางอำนวย สติมั่น(แม่ผู้ก่อเหตุ) อายุ 81 ปี เล่าว่าลูกชายตนนั่นเวลาเมานิสัยชอบเอะอะโวยวายแต่ไม่เคยมาทำร้ายพ่อกับแม่ สามีตนนั้นตาบอดหูไม่ดีเดินไม่ได้ และตนก็ตาฝ้าฟางขาเดินไม่ค่อยได้ ตนไม่ทราบเลยว่าผู้ก่อเหตุไปปากระจกรถยนต์เก๋งและกระจกหน้าต่างเพื่อนบ้านพร้อมกับได้มาถูกตำรวจจับไป โดยตนก็ไปไหนไม่ได้เลย
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกผู้เสียหายมาสอบสวนพร้อมทั้งรอกล้องวงจรปิดจากผู้เสียหายอีกที ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาเบื้องต้นทำให้เสียทรัพย์ต่อไป