ข่าวอัพเดทรายวัน

บุรีรัมย์ญาติคาใจกระบะชนอดีต ผญบ.บาดเจ็บรีเฟอร์เหยียบซ้ำคาที่คันแรกรับผิดชอบ แต่ รพ.ไม่มากระทั่งงานศพชี้ไร้มนุษยธรรม

ครอบครัวและญาติอดีต ผญบ. ที่บุรีรัมย์ นำรูปถ่ายหน้าศพออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม หลังถูกกระบะชนบาดเจ็บ และรีเฟอร์ รพ.เหยียบซ้ำตายคาที่ไม่จอดดู กระบะคันแรกที่ชนบาดเจ็บแสดงความผิดชอบ แต่คนขับรีเฟอร์ และ รพ.ไม่มากระทั่งงานศพชี้ไร้มนุษยธรรม วอนต้นสังกัดตรวจสอบให้ความเป็นธรรม หลานเผยเข้าใจว่าต้องรักษาชีวิตคนป่วยในรถ แต่ไม่ใช่เมินอีกชีวิตที่ตายกลางถนน

วันที่ 6 สิงหาคม 2566 ครอบครัวและญาติได้นำรูปถ่ายหน้าศพของนายประจิต แสงประโคน อายุ 69 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านไทร ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมและถามถึงความมีมนุษยธรรม หลังจากเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณ 20.00 น. นายประจิต อดีตผู้ใหญ่บ้านซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ไปเยี่ยมหลาน ได้ถูกรถกระบะป้ายแดง ยี่ห้อ ISUZU MU-X สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ชนขณะขับ จยย.ข้ามถนน บนถนนสายประโคนชัย-บุรีรัมย์ กม.ที่ 35 หน้าหมู่บ้านไทร ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จนตัวกระเด็นตกจากรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นรถรีเฟอร์ของ รพ.อำเภอแห่งหนึ่งที่กำลังขับมุ่งหน้าจะไปส่งผู้ป่วยที่ รพ.ในตัวจังหวัด ได้เหยียบซ้ำร่างนายประจิต จนเสียชีวิตคาที่ ซึ่งคนขับรถกระบะป้ายแดงที่ชนเป็นคันแรกได้แสดงความรับผิดชอบ ทั้งมาร่วมงานศพและเยียวยาให้กับครอบครัวคนตายแล้ว แต่คนขับรถรีเฟอร์ และทาง รพ.ต้นสังกัดกลับไม่เคยมาร่วมงานศพ ขอขมาศพ จนกระทั่งฌาปนกิจศพไปเมื่อวันที่ 5 ส.ค. และทำพิธีบรรจุอัฐิเมื่อเช้าวันนี้ (6 ส.ค.66) ก็ยังไม่เห็นมีใครมาร่วมงานหรือแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย

ทั้งนี้ทางครอบครัวและญาติยังได้นำคลิปวันที่เกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งบรรยากาศงานศพ และวันฌาปนกิจศพมาเป็นหลักฐานให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางสาธารณสุขจังหวัด หรือหน่วยงานต้นสังกัดได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

นางมะลิวัลย์ แสงประโคน อายุ 66 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า วันเกิดเหตุสามีได้ขับรถจักรยานยนต์ไปหาหลานในหมู่บ้านและกำลังจะข้ามฝั่งเพื่อกลับบ้าน แต่ระหว่างที่กำลังจะข้ามเกาะกลางถนน ก็มีรถกระบะขับมาชน จากคำบอกเล่าของคนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าตอนั้นสามีบาดเจ็บยังไม่ตาย แต่ช่วงที่กำลังประคองตัวจะลุกขึ้น ก็มีรถรีเฟอร์หรือรถฉุกเฉินรับส่งผู้ป่วยของ รพ.แห่งหนึ่ง ที่ขับมาตามหลังเหยียบซ้ำ จนทำให้สามีเสียชีวิต ซึ่งทางรถกระบะที่ชนคันแรกเขาก็มาแสดงความรับผิดชอบแล้วทั้งที่เขาไม่ได้เป็นคนชนจนเสียชีวิต แต่รถรีเฟอร์ที่ชนเสียชีวิตกลับมาเคยมามาร่วมงานศพ และไม่เคยแสดงน้ำใจรับผิดชอบอะไรเลย มีคนแจ้งมาว่าทาง รพ.จะมาแต่ก็ไม่เห็นมา ก็เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุแต่คนตายทั้งคนก็น่าจะดูแลเยียวยาบ้าง

ด้าน น.ส.พัชชา ศรีประโคน หลานผู้ตาย ซึ่งเป็นคนเห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นนั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านกับเพื่อน ได้ยินเสียงรถชนกันจึงวิ่งออกมาดู ก็เห็นรถยนต์ และรถจักรยานยนต์อยู่ที่เกิดเหตุ แต่ตอนนั้นยังไม่เห็นคน จากนั้นมีรถรีเฟอร์วิ่งตามมาเร็วมากแล้วไฟของรถก็ส่องไปเห็นคนนอนอยู่บนถนนเอามือจับหัวไว้พยายามจะลุกขึ้น แล้วรถรีเฟอร์คันดังกล่าวก็ชนเหยียบผ่านร่างลุงไปเลย ตอนนั้นตนเห็นกับตาตกใจมากวิ่งกลับเข้าไปบอกญาติที่บ้าน แต่เขาก็ไม่ได้จอดลงมาดูแต่มีคนบอกว่าเขาไปชะลออยู่แถวหน้าโรงเรียน ก็รู้สึกเสียใจว่าทำไมเขาไม่เห็นมาไหว้ลุงหรือร่วมงานศพเลย

ทางด้าน น.ส.ถิรดา พวงประโคน อายุ 40 ปี หลานสาวอีกคน บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ด้วยสามัญสำนึกช่วงที่จัดงานศพคนขับรถกระบะคันแรกที่ชนก็ได้มาแสดงความเสียใจ และมาช่วยงานศพ แต่รถรีเฟอร์ที่เหยียบซ้ำจนลุงเสียชีวิต ไม่เคยมาร่วมงานศพเลยกระทั่งวันเผาและเก็บกระดูก ญาติเข้าใจว่าในรถรีเฟอร์มีคนป่วยที่จะต้องนำส่ง รพ.เพื่อรักษาชีวิต แต่อีกหนึ่งชีวิตที่คุณชนเขาเสียชีวิตถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจตนา แต่จะไม่เหลียวแลเลยเหรอ อย่างน้อยมาร่วมงานศพมาแสดงความเสียใจเหมือนเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง จริงๆ ทางครอบครัวก็ไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่ในความเป็นมนุษย์จัดงานศพ 5 คืนจะไม่มีเวลาแม้จะมางานศพเลยเหรออย่างน้อยก็ควรจะมีมนุษยธรรมบ้าง ก็อยากให้ทางต้นสังกัดตรวจสอบให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวคนตายด้วย

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.ประโคนชัย เพื่อจะสอบถามข้อมูลกับทางร้อยเวรฯ แต่ร้อยเวรฯ แจ้งว่ายังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และเมื่อเดินทางไปที่โรงพยาบาลต้นสังกัดที่ญาติระบุว่ารถรีเฟอร์เหยียบซ้ำจนเสียชีวิต เพื่อจะสอบถามข้อมูล แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ต้องให้ผู้บริหารเป็นคนให้ข้อมูลแต่เนื่องจากเป็นวันหยุด ผู้บริหารยังไม่สะดวก หากจะให้ข้อมูลเดี๋ยวจะติดต่อไปเอง