เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 9 ส.ค. 2566 เกษตรกรชาวบ้านศิลา ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น รวมกลุ่มกันเร่งนั่งร้อยมาลัยดอกพุด เพื่อทำส่งให้ทันกับพ่อค้าคนกลางที่จะเดินมารับไปขายต่อ ในวันแม่แห่งชาติที่จะถึงนี้ ซึ่งดอกพุดทั้งหมดที่นำมาร้อยเป็นผลผลิตที่ทุกคนปลูกเองภายในสวนหลังบ้าน และมีเกือบทุกหลังคาเรือน โดยจะทำส่งขายในราคาพวงละ 20 บาท ในหนึ่งวันแต่ละคนจะรอยพวงมาลัยได้มากกว่า 50 พวงต่อ 1 คน ซึ่งคิดเป็นเงินมากกว่า 1,000 บาทต่อวัน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมนี้ ถือว่าเป็นช่วงทำเงินของเกษตรเลยที่เดียว









นางเยาวลักษณ์ สำราญบำรุง อายุ 54 ปี อยู่บ้านที่ 101/1 หมู่ 18 บ. ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูสวนดอกพุดที่ปลูกไว้ข้างบ้านจำนวนกว่า 20 ต้นและกำลังออกดอกพร้อมที่จะเก็บมาร้อยมาลัย ซึ่งก่อนหน้านี้ที่แปลงนี้ เคยปลูกเป็นดอกมะลิมาก่อน แต่ต้องรื้อถอนออกทั้งหมดเนื่องจากดอกมะลิดูแลยาก ถึงแม้ว่าจะมีราคาแพงโดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ ราคารับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 1,000 บาทก็ตาม ตนจึงหันมาปลูกดอกพุด เพื่อนำมาร้อยมาลัยขายแทน


นางเยาวลักษณ์ เล่าอีกว่า ช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้ มีออร์เดอร์จากลูกค้าประจำ สั่งเข้ามาเรื่อยๆ อย่างไม่ขาดสาย โดยก่อนจะถึงเทศกาลวันแม่ 12 สิงหาคม เกษตรกรก็จะเร่งใส่ปุ๋ย ที่ทำขึ้นมาเองในชุมชน เพื่อเร่งให้ดอกพุดออกดอกทันต่อความต้องกาของตลาด ซึ่งแต่ก่อนพื้นที่แห่งนี้เคยปลูกดอกมะลิมาก่อน แต่เนื่องจากเป็นพืชดูแลยาก โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ก็จะเกิดเชื้อรา และแมลงกัดกินจำนวนมากจึงเลิกปลูกและหันมาปลูกดอกพุดแทน เพราะใช้ต้นทุนต่ำ หนึ่งปีสามารถเก็บดอกมาร้อยมาลัยได้หลายครั้ง ยิ่งเก็บมากเท่าไหร่ดอกก็ออกมาเรื่อยๆ

ทั้งนี้ ก็ยอมรับว่า ดอกมะลิจะมีราคาแพงมากว่าดอกพุดครึ่งต่อครึ่ง เมื่อนำไปร้อยมาลัยวางขาย โดยดอกมะลิราคาจะอยู่ที่พวงละ 100 บาท แต่ดอกพุดมีราคาพวงละ 50 บาทเท่านั้น จากที่สังเกตดูคนส่วนมากจะนิยมใช้ดอกพุดมากกว่าดอกมะลิ อาจเพราะมีราคาไม่พงและถูกกว่าดอกมะลิครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งดอกพุดเมื่อนำไปร้อยมาลัยแล้วจะดูสวยงามเป็นระเบียบมากกว่าดอกมะลิ.