ยายชาว อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พร้อมหลาน และเพื่อนที่ซ้อน จยย. ชนกระบะพ่อตา ตร.เมาขับขวางถนนสาหัส ถือป้ายหน้าโรงพักวอน “บิ๊กโจ๊ก” ช่วย หลังผ่านไปครึ่งปีคดีไม่คืบหน้าไม่มีการดูแลเยียวยา แถมค้างค่ารักษา รพ.เป็นแสน สุดช้ำคู่กรณีคุยโวคดีจบแล้วไม่ต้องชดใช้ไม่ต้องขึ้นศาล ด้าน ผกก.รับปากจี้เจ้าของคดีเร่งรวบรวมหลักฐานและสอบพยานสรุปสำนวนส่งอัยการสัปดาห์หน้า








วันที่ 15 ส.ค. 2566 นางหนูแดง ขอมหงส์ อายุ 59 ปี ชาว อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พร้อมนายธรชญาน์ หรือแด๊ด อายุ 17 ปี หลานชาย , น.ส.ลัดดาวัลย์ หรือนิ่ม อายุ 19 ปี เพื่อนหลานชาย และญาติ ได้พากันเดินทางไปถือป้ายขอความเป็นธรรมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรบ้านกรวด และป้ายวอนขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร. กรณีที่นายแด๊ด หลานชาย ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซ้อน น.ส.นิ่ม เพื่อนรุ่นพี่ ออกไปซื้อนมให้ลูกสาววัย 2 ขวบ ที่ร้านค้าในหมู่บ้านใกล้กัน เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 18 ก.พ.66 แต่ก่อนจะถึงร้านค้าในหมู่บ้านได้เฉี่ยวชนกับรถยนต์ กระบะ ของนายเอ (นามสมมติ) อายุ 60 กว่าปี ซึ่งเป็นพ่อตาของตำรวจที่ สภ.แห่งหนึ่ง โดยได้ดัดแปลงเป็นรถเพื่อการเกษตรไม่มีไฟหน้ารถ ทำให้เด็กมองไม่เห็น และมีอาการมึนเมารถกินเลนขวางถนน จนทำให้นายแด๊ด หลานชาย และ น.ส.นิ่ม เพื่อนรุ่นพี่ที่ซ้อนท้ายไปด้วย ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยหลานชาย มีแผลฉีกขาดที่คางเย็บ 8 เข็ม เท้าฉีกเย็บ 6 เข็ม ส่วนเพื่อนหลาน สะโพกหัก 2 ข้างต้องผ่าตัดยิงน็อต , ข้อมือขวา และขาซ้ายท่อนล่างหักต้องดามเหล็กไว้ รักษาตัวที่ รพ.นานร่วม 1 เดือน แล้วออกมารักษาตัวที่บ้านต่ออีกหลานเดือน ปัจจุบันก็ยังไม่หายดี ต้องไปตรวจรักษาตามที่หมอนัดเป็นระยะ

นางหนูแดง ยายน้องแด๊ด บอกว่า ที่มาถือป้ายขอความเป็นธรรมหน้าโรงพักครั้งนี้ เพราะอุบัติเหตุผ่านไปครึ่งปีแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่คู่กรณีถูกแจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส และขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน” แต่ได้รับการประกันตัวไปใช้ชีวิตเป็นปกติ แถมยังไปเดินพูดกับคนในหมู่บ้านว่าคดีจบแล้วไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายและไม่ต้องขึ้นศาลด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุคู่กรณีไปเยี่ยมที่ รพ.แค่ครั้งเดียว ให้เงินหลานชายและเพื่อนของหลานคนละ 200 บาทเท่านั้น จากนั้นก็ไม่เคยมาเยี่ยมหรือถามอาการบาดเจ็บอีกเลย และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ จึงเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะคู่กรณีเป็นพ่อตาของตำรวจ จึงอยากให้บิ๊กโจ๊กช่วยดูแลคดีนี้ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ญาณะธัช ชับพรโชติ ผู้กำกับการ สภ.บ้านกรวด ก็ได้เชิญผู้เสียหายที่มาขอความเป็นธรรมเข้าไปสอบถามพูดคุยข้อมูล พร้อมชี้แจงด้วยว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ดำเนินการรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำผู้เสียหาย และพยานอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาคนขับรถกระบะไปแล้ว คือ “ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส และขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน” แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และได้ยื่นขอประกันตัวซึ่งก็เป็นไปตามกระบวนการ ยืนยันว่าไม่ได้ล่าช้าแต่เนื่องจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายต่างมาร้องขอความเป็นธรรมเหมือนกัน จึงจำเป็นต้องเรียกสอบพยานเพิ่มเติมก็ทำให้ต้องใช้เวลาในการสอบสวนอย่างละเอียดรอบคอบ อย่างไรก็ตามจะได้เร่งรัดพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเร่งรวบรวมหลักฐานและสอบพยานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งอัยการได้ภายในสัปดาห์หน้า โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย