แฉราคาไม้พะยูงโรงเรียนคำไฮวิทยาขายนายหน้าต่ำกว่าราคาตลาด 28-56 เท่าตัว ด้าน ผวจ.กาฬสินธุ์ ย้ำ ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ปฏิบัติหน้าที่ขัดคำสั่งการจังหวัดและสวนทางกับคำสั่งการตัดต้นไม้ในที่ราชพัสดุ ของอธิบดีกรมธนารักษ์ ตามแผนปฏิบัติรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ย้ำส่งเรื่องให้ ปปช.- สตง.-ปปท. เอาผิดทางวินัย แพ่ง อาญา ขณะที่ ผู้การตำรวจกาฬสินธุ์ เร่งติดตามนายหน้าซื้อไม้พะยูงโรงเรียนมาสอบปาก ส่วนปัญหาการขโมยไม้ของกลางจะมีข่าวใหญ่จ่อจับยกขบวนเร็วๆนี้
จากกรณีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อย่างไร้ร่องรอย เมื่อช่วงคืนวันที่ 5 ส.ค.66 ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสว่ามีบุคคลของรัฐไม่น้อยกว่า 6 คน เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่จากแนวทางการสอบสวนผุ้เกี่ยวข้องให้การปฏิเสธ ถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี แต่กลับมีปัญหาการตัดไม้พะยูงรายวันในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะที่โรงเรียนคำไฮวิทยา ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีการเปิดให้นายหน้าเข้ามาตัดไม้พะยูงภายในโรงเรียนถึง 22 ต้น ในราคา 1.53 แสนบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2023/08/20230820-120435-09-1024x1014.jpg)
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2566 รายงานแจ้งว่า นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้กำชับ ปปช.- สตง.-ปปท.รวมไปถึง ตำรวจให้เร่งดำเนินการเอาผิดและจับกุมเพื่อยุติวงจรอุบาทว์ทั้งขบวนการ ล่าสุดจัดทีมเฉพาะกิจ โดยการนำของ นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงปมไม้พะยูงโรงเรียนคำไฮวิทยา 22 ต้น ประมูลขายให้นายหน้าเพียง 153,000 บาท ปัญหาไม้พะยูงเกิดขึ้น 2 คดี คือ 1.เป็นกรณีไม้พะยูงจำนวน 7 ท่อน มูลค่า 1 ล้านบาท หายไปจากสำนักงาน ทต.อิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ถูกขบวนการมอดไม้ขนย้ายไป แต่แหล่งข่าววงในระบุว่ามีการซื้อขายกันราคา 290,000 บาท และกรณีที่ 2.เป็นกรณี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต2 ร่วมกับ ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ อนุญาตให้ นายหน้าเข้าประมูลไม้พะยูงโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ตัดขายไป 22 ต้น แต่สามารถตัดได้เพียง 17 ต้น เนื่องจากไม้เต็มรถสิบล้อก่อน ในราคา นำเงินเข้าหลวงเพียง 153,000 บาท
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2023/08/20230820-120442-02-1024x768.jpg)
รายงานแจ้งว่า ได้มีการเผยแพร่คำสั่งของกรมธนารักษ์ ถึงผู้อำนวยการกองบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานครและธนารักษ์พื้นที่ทุกพื้นที่ กรณีการตัดต้นไม้ในที่ราชพัสดุให้สอดคล้องกับนโยบายของทางราชการ โดยกรมธนารักษ์ ได้มีหนังสือ ที่ กค 0305/ว 20 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด สั่งการธนารักษ์พื้นที่ให้ถือปฏิบัติในการตัดต้นไม้ในที่ราชพัสดุ โดยมีรายละเอียดว่า เพื่อให้การบริหารจัดการที่ราชพัสดุสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับนโยบายรัฐบาลในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน สร้างความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2023/08/20230820-120443-04-1024x981.jpg)
จึงกําหนดให้มีการอนุรักษ์ต้นไม้ และป่าไม้ในเขตพื้นที่ที่ราชพัสดุ โดยขอให้หลีกเลี่ยงการตัดต้นไม้ใหญ่และดําเนินการใดๆ ในที่ราชพัสดุที่มี สภาพเป็นป่าไม้หนาแน่น ยกเว้นในกรณีที่มีเหตุผลและความจําเป็นอย่างยิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ เช่น กีดขวาง การใช้พื้นที่เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือกีดขวางสายไฟฟ้า หรืออาจโค่นล้มจนเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน หรือเป็นการตัดแต่งต้นไม้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสวยงาม เป็นต้น หากมีเหตุผลความจําเป็น ต้องตัดโค่นต้นไม้หรือป่าไม้นอกเหนือจากกรณีดังกล่าว ให้รวบรวมรายละเอียดข้อเท็จจริงรวมทั้งเหตุผลความจําเป็น โดยเปรียบเทียบผลดีและผลเสียในการดําเนินการ พร้อมทั้งความเห็นที่เกี่ยวข้องให้กรมธนารักษ์พิจารณาอนุญาต ตามความเหมาะสมเป็นกรณีไป และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2023/08/20230820-120445-06-1024x713.jpg)
กรมธนารักษ์ได้อนุมัติให้ดําเนินโครงการสงวนและอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวในที่ราชพัสดุเป็นโครงการสําคัญ มีระยะเวลาดําเนินการ 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2570 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มปริมาณการดูดซับก๊าซเรือนกระจก สงวน รักษาและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในที่ราชพัสดุ อนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งสอดรับ กับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างการเติบโต บนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กรมธนารักษ์ในฐานะหน่วยงานที่ปกครอง ดูแล บํารุงรักษาที่ราชพัสดุ ได้ตระหนักถึงความสําคัญดังกล่าว จึงมีแนวคิดในการนําที่ราชพัสดุมาสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ด้วยการสงวนและอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวในที่ราชพัสดุ เพื่อสร้างสมดุลทางระบบนิเวศ เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีสวยงาม ตลอดจนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในเมืองและชุมชน
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2023/08/20230820-120451-08-1024x679.jpg)
กรมธนารักษ์พิจารณาแล้ว เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้อย่างยั่งยืนและเป็นการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวตามนโยบายของทางราชการ จึงขอกําชับให้ถือปฏิบัติตามหนังสือ ที่ กค 0305/ว 20 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 และขอให้พิจารณาถึงเหตุผลและความจําเป็น และผลได้ผลเสียต่างๆ ให้รอบคอบก่อนตัดต้นไม้ในที่ราชพัสดุตามนัยหนังสือดังกล่าวโดยเคร่งครัดด้วย
ทั้งนี้ เป็นนโยบายของรัฐบาล ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงทรัพยากรป่าไม้และต้นไม้ โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งการให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ กำกับดูแลบริหารจัดการที่ราชพัสดุในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยหลีกเลี่ยงการตัดไม้ที่อยู่ในที่ราชพัสดุ ยกเว้นในกรณีที่มีความจำเป็นอันหลีกเลี่ยงมิได้ โดยให้รวบรวมรายละเอียด ข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเหตุผลและความจำเป็นฯ
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2023/08/20230818-154716-01-1024x682.jpg)
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2023/08/20230818-154716-02-1024x682.jpg)
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2023/08/20230818-154721-14-768x1024.jpg)
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2023/08/20230818-154719-15-768x1024.jpg)
อย่างไรก็ตาม กรณีการประมูลไม้พะยูงโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 22 ต้น ในราคา 153,000 บาทนั้น ล่าสุด นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้แต่งตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในเชิงลึกในลำดับต่อไป โดยยืนยันกวดขันอย่างจริงจัง และลงโทษทุกภาคส่วนที่มีเอี่ยว ในการตัดไม้พะยูงในพื้นที่ธนารักษ์อย่างเฉียบขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ได้มีการเปิดเอกสาร หลักฐานการชำระเงินจากนายทุนคนหนึ่ง เพื่อซื้อไม้พะยูงจำนวน 22 ต้น และตอไม้จำนวน 2 ตอ กับ โรงเรียนคำไฮวิทยา ระบุจำนวนเงิน 1.53 แสนบาท โดยมีการลงชื่อผู้รับเงินอย่างถูกต้อง ตามเอกสารยังมีการคิดราคาประเมินขนาดความโตมาคำนวณปริมาตรไม้โดยใช้สูตร (โต คูณ โต คูณ สูง คูณ7.96 บวก 100,000)จะได้ปริมาตรเป็นรายต้น รวมจำนวน 22 ต้น 11 นาง ปริมาตรวัดได้ 17.22 ลูกบาศก์เมตร ตกลงประเมินซื้อขายเฉี่ยราคาเมินลูกบากศก์เมตรละ 10,000 บาท ซึ่งเอกสารวิธีการซื้อขายและใบเสร็จรับเงินดังกล่าว ได้ถูกส่งต่อเพื่อรวบรวมในกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากกรณีนี้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ไม้พะยูงเป็นไม้มีค่ามีราคาและอยู่ในที่ราชพัสดุ ซึ่งราคาที่ขายออกไปเพียง 1.53 แสนบาทจึงเป็นราคาที่ไม่สมเหตุสมผล
จากการที่ผู้สื่อข่าวติดตามปัญหานี้ แหล่งข่าวด้านความมั่นคงยังได้นำเอกสารการซื้อขายไม้พะยูงซึ่งเป็นไม้วิธีคิดราคากลางไม้แปรรูปหวงห้าม ซึ่งไม้พะยูง อยู่ในประเภท ก ไม้หวงห้ามธรรมดา หากเป็นไม้พะยูง แดงจีน (Dolbergia cochinchensis) ถือเป็นชั้นไม้คุณภาพดี ชนิดไม้เป็นที่นิยมของตลาด ราคาไม้ท่อนจะตกอยู่ที่ 250,000 (บาท/ลบ.ม.) หากเป็นไม้ที่แปรรูปแล้ว จะอยู่ที่ 500,000 (บาท/ลบ.ม.) ซึ่งหากเปรียบเทียนกับราคาที่ขายครั้งนี้ของ โรงเรียนคำไฮวิทยา ซึ่งการซื้อขายอยู่ที่ 17.22 ลูกบากศ์เมตร เมื่อนำมาคูณกับราคาไม้ท่อนจะตกที่ราคา 4,305,000 บาท (สี่ล้านสามแสนห้าพันบาท) แต่หากเป็นราคาไม้พะยูงแปรรูป จะมีราคาสูงถึง 8,610,000 บาท (แปดล้านหกแสนหนึ่งหมื่นบาท) ที่วัดตามปริมาตรไม้มาคำนวณและพบว่า มีการซื้อขายต่ำกว่าท้องตลาดมากถึง 28-56 เท่าตัว ถือเป็นราคาที่ต่ำกว่าตลาดหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน โดย พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้ติดต่อให้ นายกหน้ารายนี้เข้ามาให้ปากคำแล้ว และคาดว่าจะมีข่าวใหญ่ในการจับยกขบวนการขโมยไม้พะยูงของกลางที่หน้าเสาธง สำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ เร็วๆนี้
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ ระบุว่า ปัญหาการตัดไม้พะยูง ภายในโรงเรียนคำไฮวิทยา นั้น ได้รับรายงานเบื้องต้นจากนายอำเภอหนองกุงศรี ทราบว่า เรื่องนี้ไปเกี่ยวพัน 3 ฝ่าย ที่อนุญาตกันเอง ประกอบด้วย 1.ผอ.โรงเรียนคำไฮวิทยา 2.ผอ.เขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 และ 3. ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ อนุญาตให้ตัดเพื่อหาเงินเข้าหลวง เนื่องจากตามระเบียบกรมธนารักษ์แล้ว การจะตัดไม้ในเขตพื้นที่ราชพัสดุได้นั้น มีข้อยกเว้นในกรณีที่มีความจำเป็นอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้รวบรวมรายละเอียดข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเหตุผลและความจำเป็น โดยเปรียบเทียบผลดีและผลเสียในการดำเนินการ พร้อมทั้งความเห็นที่เกี่ยวข้องแล้วส่งให้กรมธนารักษ์พิจารณาความเหมาะสมเป็นรายกรณี
โดยกรณีนี้ เรื่องการตัดไม้พะยูงที่โรงเรียนคำไฮวิทยานั้น สาเหตุเกิดจากฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ทางธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ออกหนังสืออนุญาตให้พ่อค้าไม้พะยูงมาตัด ทั้งที่มีหนังสือข้อสั่งการทางจังหวัดห้ามตัด และมีการขนไม้พะยูงไปเต็มรถสิบล้อ โดยมีหลักฐานปรากฏเป็นรูปถ่ายโดยเฉพาะเอกสารเป็นใบเสร็จรับเงินเพียง 1.53 แสนบาท เท่านั้น ซึ่งก็ได้ย้ำให้ ปปช.-สตง.-ปปท. และตำรวจเร่งสอบสวนเอาผิดทั้งหมด