หนุ่มชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรมถูก ตร.แจ้งความเอาผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่และเรียกค่าเสียหาย 2 หมื่น หลังไปบอกเพื่อนที่มีเรื่องชกต่อยในงานผ้าป่าและศิษย์เก่าให้กลับบ้านแต่มีชายซึ่งมารู้ทีหลังมาว่าเป็น ตร.เพราะไม่ได้แต่งเครื่องหรือแขวนบัตร เข้าล็อกคอตบหน้า จึงใช้มือปัดและสะบัดไปมาไม่เจตนาทำร้าย ด้าน ตร.ยันไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งและถูกทำร้ายจริง





เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2566 นายเอ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ชาวบ้านการะโก ต.แคนดง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม โดยอ้างว่าขณะเข้าไปบอกเพื่อนที่มีเรื่องชกต่อยกันในงานผ้าป่าศิษย์เก่าและเลี้ยงรุ่น ซึ่งจัดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2566 ที่ผ่าน ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. แต่ถูกผู้ชายคนหนึ่งซึ่งแต่งตัวเหมือนชาวบ้านทั่วไป แต่เพิ่งมารู้ภายหลังว่าเป็นตำรวจชุดสืบสวนสังกัด สภ.แคนดง หลังจากเกิดเรื่อง เพราะในวันงานไม่ได้แต่งเครื่องแบบและไม่ได้แขวนบัตรที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่
แต่กลับถูกตำรวจนายดังกล่าวแจ้งความเอาผิดฐาน “ทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่” พร้อมเรียกค่าเสียหายอีก 20,000 บาท ส่วนตัวมองว่าไม่เป็นธรรม เพราะตนเองไม่ได้มีเรื่องชกต่อยในงาน แค่ไปบอกเพื่อนที่มีเรื่องชกต่อยกับอีกคนช่วงที่เต้นสนุกสนานข้างรถแห่ที่จ้างมาแสดงภายในงาน ให้กลับบ้านเพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาบานปลาย แต่จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งซึ่งสวมใส่เสื้อผ้าธรรมเหมือนกับศิษย์เก่าและประชาชนทั่วไปที่มาร่วมงาน เข้ามาล็อกคอแล้วตบหน้าตนเอง ซึ่งตนไม่รู้ว่าจะเป็นการเข้าใจผิดหรือไม่อย่างไร แต่ด้วยความที่ชายคนดังกล่าวไม่ได้แต่งเครื่องแบบ และไม่ได้แขวนบัตรที่แสดงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ก็คิดว่าเป็นอีกฝ่ายที่มีเรื่องกับเพื่อนจึงใช้มือปัดป้องและสะบัดไปมา ก่อนที่จะมีชาวบ้านมาดึงตนกับชายคนดังกล่าวออก โดยช่วงนั้นก็ค่อนข้างชุลมุน พอมีคนแยกออกจากกัน ถึงแม้คนมาบอกว่าชายคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายเอ ยืนยันว่าตนไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ตามที่ถูกแจ้งความกล่าวหา เป็นเพียงการใช้มือปัดป้องเพราะถูกล็อกคอเท่านั้น ที่สำคัญก็ไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยซ้ำ แต่กลับถูกแจ้งข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ และเรียกค่าเสียหายอีก 2 หมื่น จึงอยากขอความเป็นธรรมด้วย
ด้านนางบี (นามสมมติ) แม่ของนายเอ ก็บอกว่า วันเกิดเหตุมีคนอื่นที่ชกต่อยกันลูกชายตนไม่ได้ไปชกต่อยกับเขาด้วย เพียงแค่คนที่มีเรื่องเขาเป็นเพื่อนกับลูกชายจึงไปบอกให้เขากลับบ้าน แต่จังหวะที่เดินไปบอกก็มีผู้ชายมาล็อกคอตบหน้า โดยที่ลูกชายก็ไม่รู้ว่าเขาเป็น ตร.เพราะเขาไม่ได้แต่งเครื่องแบบและไม่แขวนบัตรตามสัญชาตญาณก็ต้องปัดป้อง พอตนรู้ว่าเป็นลูกชายตัวเองก็รีบไปดึงแขนออกมา ตอนนั้นก็ชุลมุนไม่รู้ใครเป็นใครแล้ว แต่ทำไมเขาถึงมาเจาะจงแจ้งความเอาผิดลูกชายคนเดียว ข้อหาหนักมาก แล้วเรียกค่าเสียหายตั้ง 2 หมื่นจะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย จึงอยากให้ตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมด้วย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.แคนดง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น แต่ตำรวจที่แจ้งความเอาผิดนายเอ ออกไปปฏิบัติหน้าที่ข้างนอก จึงได้โทรศัพท์สอบถาม ซึ่งตำรวจนายดังกล่าวก็ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในงานผ้าป่าศิษย์เก่าที่ ร.ร.ดังกล่าว โดยไปด้วยกัน 3 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ก็มีคนที่อยู่ในงานมีเรื่องชกต่อยกัน แล้ววิ่งไปขึ้นรถเหมือนจะหลบหนี ตนซึ่งปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในงานจึงวิ่งตามไปก็เห็นคนที่มีเรื่องนั่งอยู่บนรถ จึงจะไปถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน แต่จังหวะที่กำลังจะถ่ายรูปนายเอ ก็มากระชากกระเป๋าที่ตนเองสะพายอยู่ แล้วก็ทำร้ายร่างกายด้วย ก่อนที่จะมีครูซึ่งเห็นเหตุการณ์มาดึงตัวนายเอ ออกไป ยืนยันว่าที่ไปแจ้งความเพราะถูกทำร้ายขณะปฏิบัติหน้าที่จริง ซึ่งก็มีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกันแต่อีกฝ่ายกลับข่มขู่ว่าจะเอาเรื่องไปร้อง ปปช. ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ